ความตกลงเพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อนไทย – กัมพูชา มีผลใช้บังคับแล้ว

ข่าวสารด้านบัญชีและภาษีอากร

ข่าวสารด้านบัญชีและภาษีอากร

 

ความตกลงเพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อนระหว่างประเทศไทย – กัมพูชา มีผลบังคับใช้แล้ว ตั้งแต่วันที่ 26 ธันวาคม 2560 โดยผู้เสียภาษีจะสามารถใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีได้ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2561 เป็นต้นไป

 

นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า “ความตกลงเพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อนระหว่างประเทศไทย – กัมพูชา มีผลบังคับใช้แล้ว ตั้งแต่วันที่ 26 ธันวาคม 2560 โดยผู้เสียภาษีจะสามารถใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีได้ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2561 เป็นต้นไป ผลของความตกลงดังกล่าว จะเป็นประโยชน์ต่อผู้เสียภาษีในการขจัดหรือบรรเทาภาระภาษีซ้ำซ้อนระหว่างประเทศ เสริมสร้างบรรยากาศการลงทุนระหว่างกัน ทำให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันกับประเทศอื่นๆ ได้เพิ่มมากขึ้น เช่น หากนักลงทุนไทยได้รับเงินได้ประเภทเงินปันผล ดอกเบี้ย หรือค่าสิทธิ จากกัมพูชา ก็จะได้รับการลดอัตราภาษีที่ต่ำกว่าอัตราภาษีภายในประเทศ ดังนั้น ผู้เสียภาษีหรือนักลงทุนไทยที่ทำธุรกรรมหรือมีภาระภาษีจากการประกอบธุรกิจระหว่างประเทศไทยและกัมพูชา สามารถนำความตกลงดังกล่าวมาพิจารณาเพื่อใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีได้”

 

ทั้งนี้ ความตกลงเพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อนไทย – กัมพูชา นับเป็นความตกลงเพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อนฉบับที่ 61 ที่รัฐบาลไทยจัดทำกับรัฐบาลต่างประเทศ



สำหรับผู้ที่มีข้อสงสัย สามารถศึกษารายละเอียดของความตกลงเพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อนของทั้ง 61 ประเทศ ได้ที่เว็บไซต์กรมสรรพากร www.rd.go.th เมนูความรู้เรื่องภาษี หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์สารนิเทศสรรพากร (RD Intelligence Center) โทร. 1161



กรมสรรพากร สำนักงานเลขานุการกรม ส่วนประชาสัมพันธ์
โทร. 0 2272 9529-30 โทรสาร 0 2617 3324
หรือศูนย์สารนิเทศสรรพากร 1161 (RD Intelligence Center)

 

 

แหล่งที่มา : กรมสรรพากร สำนักงานเลขานุการกรม ส่วนประชาสัมพันธ์