นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า การจัดเก็บรายได้ของกรมในช่วง 7 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2558 (ต.ค.57-เม.ย.58) ยังต่ำกว่าเป้าหมายถึง 4 หมื่นกว่าล้านบาท ทั้งนี้ เป็นผลมาจากการจัดเก็บภาษีปิโตรเคมี และภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) จากการนำเข้าที่ยังต่ำกว่าเป้าหมายเป็นสำคัญ จากผลกระทบของราคาน้ำมันที่ยังอยู่ในระดับต่ำ ขณะที่ทิศทางการจัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคล ที่เก็บจากผลประกอบการในปี 2557 ยังต่ำกว่าเป้าหมายถึง 10% จากผลกระทบของเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ทำให้ผลประกอบการของเอกชนในช่วงปีที่ผ่านมาอยู่ในระดับต่ำ
นอกจากนี้ คาดว่าภาพรวมการจัดเก็บรายได้ในปีงบประมาณ 2558 จะต่ำกว่าเป้าหมายไม่เกิน 1.6 แสนล้านบาท โดยหลักๆ มาจากการจัดเก็บภาษีแวตจากการนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคจะหายราว 4 หมื่นล้านบาท และผลกระทบจากการลดลงของราคาน้ำมันที่จะทำให้การจัดเก็บรายได้จากการนำเข้าน้ำมันหายไปอีก 6 หมื่นล้านบาท รวมถึงผลจากการจัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลที่คาดว่าจะทำได้ต่ำกว่าเป้าหมาย 10%
“แม้ภาพรวมการจัดเก็บรายได้ปีนี้จะได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัย แต่ก็ยังมีปัจจัยเสริมเข้ามาชดเชยได้บ้าง โดยเฉพาะผลจากการจัดเก็บภาษีแวตจากการบริโภคในประเทศ ซึ่งในช่วง 8 เดือน ทำได้สูงกว่าเป้าหมาย 10% สะท้อนการใช้จ่ายในประเทศยังคงแข็งแกร่ง และยังมีปัจจัยเสริมจากการจัดเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และอากรแสตมป์เข้ามาชดเชยได้บ้าง”
สำหรับความคืบหน้าการทำงานร่วมกับคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล กระทรวงยุติธรรม และกรมสรรพากรในการตรวจสอบรายได้ และที่มาของทรัพย์สินผู้ค้าสลากทุกระดับที่ไม่ให้ความร่วมมือในการจำหน่ายสลากตามราคาที่กำหนดนั้น นายประสงค์ กล่าวว่า กรมสรรพากรมีความพร้อมในการให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ โดยแนวทางเบื้องต้น คือ หากตรวจสอบพบว่ามีผู้ค้าขายสลากเกินราคาจะเข้าไปตรวจสอบภาษี และเรียกเก็บภาษีในส่วนที่เกินกว่าราคาที่กำหนด พร้อมทั้งจะมีการตรวจสอบบัญชีทั้งหมดว่ามีที่มาอย่างไร ส่วนจะเป็นการเรียกจัดเก็บย้อนหลังหรือไม่ก็ต้องพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง โดยเชื่อว่าจะสามารถตรวจสอบได้ไม่ยุ่งยาก และใช้เวลาไม่นาน
ที่มา-ASTVผู้จัดการออนไลน์