นางแพตริเซีย มงคลวนิช รองอธิบดีกรมสรรพากร ในฐานะโฆษกกรมสรรพากร เปิดเผยว่า การที่ระบบพร้อมเพย์เกิดปัญหาเมื่อวันที่ 31 ธ.ค.60 ที่ผ่านมา ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการคืนเงินภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาให้ประชาชนผ่านระบบพร้อมเพย์ของกรมสรรพากร ซึ่งประชาชนยังยื่นแบบชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาปี 60 ได้ตามปกติ โดยหากมีการชำระภาษีไว้เกิน และไม่มีการถูกตรวจสอบหรือขอข้อมูลเพิ่ม ผู้ชำระภาษีจะได้รับการโอนเงินคืนเข้าบัญชีผ่านพร้อมเพย์หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลักในวันรุ่งขึ้นทันที ซึ่งปีนี้กรมสรรพากรยืนยันว่าผู้ชำระภาษีเกินและต้องการรับเงินผ่านพร้อมเพย์จะได้รับความสะดวกกว่าเดิม
“ตามที่กรมฯได้รับรายงานมา ปัญหาพร้อมเพย์ได้เกิดขึ้น ได้แก้ไขได้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 31 ธ.ค.60 ซึ่งขณะนั้นยังไม่ได้เริ่มให้มีการยื่นแบบภาษี หรือจ่ายภาษีคืน เพราะการเปิดให้ยื่นแบบภาษีและการจ่ายเงินคืนภาษีที่ชำระไว้เกินคืนจะเริ่มตั้งแต่เดือนม.ค. 2561 เป็นต้นไป ดังนั้นจึงไม่มีผลกระทบแต่อย่างใด”
นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า ขอแนะนำให้ประชาชนที่ยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปี 2560 ที่เริ่มเปิดให้ยื่นแบบภาษีตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.ถึงต้นเดือนเม.ย. 2561 ให้รีบสมัครบัญชีพร้อมเพย์ก่อนยื่นแบบภาษีเพื่อให้รับคืนเงินภาษีที่จ่ายเกินได้ไวขึ้น เพราะในระบบใหม่ของสรรพากรจะใช้เวลาพิจารณาและจ่ายคืนภาษีเพียงไม่กี่นาที รวดเร็วกว่าการคืนภาษีผ่านระบบปกติ ที่ต้องใช้เวลาพิจารณา การจ่ายเงินผ่านเช็กและส่งไปรษณีย์นานถึง 30 วัน นอกจากนี้ ยังขอแจ้งให้ผู้ที่สมัครบัญชีพร้อมเพย์ด้วยเบอร์โทรศัพท์มือถือ ให้เปลี่ยนนำหมายเลขบัตรประชาชนเข้าไปผูกบัญชีพร้อมเพย์เพิ่มเติม เพื่อป้องกันการโอนภาษีคืนแล้วผิดพลาด
แหล่งที่มา : ข่าวสด ออนไลน์