“เรคกูเลเตอร์” ดึงเอกชนลดใช้ไฟ เหตุพม่าหยุดซ่อมบำรุงท่อก๊าซฯ ตั้งเป้ากดค่าเอฟทีลง 0.08 สต.

ข่าวสารด้านบัญชีและภาษีอากร

ข่าวสารด้านบัญชีและภาษีอากร

 

 

นายวีระพล จิรประดิษฐกุล กรรมการกำกับกิจการพลังงาน (เรคกูเลเตอร์) เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 10-20 เม.ย.นี้ จะมีการหยุดปิดซ่อมแหล่งก๊าซธรรมชาติ จากประเทศพม่า จาก 2 แหล่ง คือ แหล่งยาดานาและเยตากุน ทำให้ก๊าซธรรมชาติเพื่อใช้ผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย หายไป 900 ล้านลูกบาศก์ฟุต (ล้าน ลบ.ฟุต) ต่อวัน 

 

นายวีระพล จิรประดิษฐกุล กรรมการกำกับกิจการพลังงาน (เรคกูเลเตอร์) เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 10-20 เม.ย.นี้ จะมีการหยุดปิดซ่อมแหล่งก๊าซธรรมชาติ จากประเทศพม่า จาก 2 แหล่ง คือ แหล่งยาดานาและเยตากุน ทำให้ก๊าซธรรมชาติเพื่อใช้ผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย หายไป 900 ล้านลูกบาศก์ฟุต (ล้าน ลบ.ฟุต) ต่อวัน คิดเป็นปริมาณไฟฟ้าที่หายไปจากระบบ 1,400 เมกะวัตต์ เรคกูเลเตอร์จึงได้เดินหน้าโครงการความร่วมมือลดใช้ไฟฟ้า (Demand Response หรือ DR) อีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่เคยทำมา 2 ครั้งในปีที่ผ่านมา เพื่อจูงใจให้ภาคอุตสาหกรรม ทั้งโรงงานอุตสาหกรรม ท่องเที่ยว และธุรกิจบริการ ประหยัดไฟฟ้า ให้ได้ขั้นต่ำ 500 เมกะวัตต์ เพื่อทดแทนกำลังผลิตไฟฟ้าที่หายไป เชื่อว่าช่วงเวลาดังกล่าวอยู่ในวันหยุดยาวในเทศกาลสงกรานต์ ก็จะส่งผลให้ความต้องการใช้ไฟฟ้าไม่สูงมากนัก และภาครัฐจะรณรงค์ให้ประชาชนประหยัดไฟฟ้าอยู่แล้ว

 

“การปิดซ่อมท่อส่งก๊าซฯจะไม่ส่งผลกระทบต่อกำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทยให้น่าเป็นห่วง แต่สาเหตุที่ต้องทำโครงการนี้ เพราะไม่ต้องการให้ประชาชนต้องจ่ายค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) ในอัตราสูง เนื่องจากคำนวณว่าต้องใช้เชื้อเพลิงทดแทน คือ น้ำมันเตา 130 ล้านลิตร มูลค่า 3,100 ล้านบาท น้ำมันดีเซล 56 ล้านลิตร มูลค่า 1,400 ล้านบาท รวม 4,500 ล้านบาท มาผลิต ไฟฟ้า คิดเป็นค่าเอฟทีที่เพิ่มขึ้นในปีนี้ 8.35 สตางค์ต่อหน่วย แต่หากเดินหน้าโครงการนี้ และลดการใช้ไฟฟ้าได้ 500 เมกะวัตต์ จะทำให้ค่าเอฟทีลดลง 0.08 สตางค์ (สต.) ต่อหน่วย หรือคิดเป็นส่วนที่ประชาชนต้องจ่ายเพียง 8.27 สตางค์ต่อหน่วย และ หากถึงเวลาจริงประชาชนร่วมลดใช้ไฟฟ้า การใช้เชื้อเพลิงทดแทนก็ลดลง ทำให้เอฟทีเพิ่มขึ้นลดลงตามไปด้วย”

 

สำหรับหลักเกณฑ์ในการจูงใจที่จะทำให้เอกชนเข้าร่วมโครงการฯ เรคกูเลเตอร์ได้กำหนดค่าไฟฟ้าที่สามารถลดลงได้อัตรา 3 บาทต่อกิโลวัตต์ต่อชั่วโมง ขณะที่ช่วงเวลาที่กำหนดให้ร่วมโครงการแบ่งเป็น 3 ช่วงเวลา คือ 10.00-12.00, 14.00-17.00 และ 19.00-22.00 น. ระหว่างวันที่ 10 เม.ย. วันที่ 17 เม.ย. วันที่ 18 เม.ย. และวันที่ 20 เม.ย. ผู้ที่ต้องการสมัครเข้าร่วมโครงการสามารถกรอกใบสมัครได้ที่การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ในวันที่ 23-31 มี.ค.นี้.

 

ที่มา : ไทยรัฐอนนไลน์