นายโอภาส กลั่นบุศย์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานปล่อยขบวนรถข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่นําเข้าอย่างถูกต้องตามกฎหมายตามนโยบายของรัฐบาล จากประเทศเมียนมาร์ ณ จุดผ่อนปรนการนำเข้าท่าศาลา ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก ซึ่งเป็นการดำเนินธุรกิจโดยเครือข่ายสหกรณ์ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ จังหวัดตาก ว่าโครงการนี้เป็นการดำเนินงานสนองนโยบายรัฐบาล ในการใช้วิธีการสหกรณ์เข้ามาแก้ปัญหาการลักลอบนําเข้าสินค้าเกษตรบริเวณแนวชายแดน และแก้ปัญหาสินค้าเกษตรขาดตลาดในช่วงนอกฤดูการผลิตภายในประเทศ
โครงการแก้ไขปัญหาสินค้าทางการเกษตรบริเวณแนวชายแดนโดยวิธีสหกรณ์นั้น เป็นนโยบายของ คสช.ที่เริ่มตั้งแต่เข้ามาดูแลความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองและเป็นนโยบายต่อเนื่องของรัฐบาล โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องการแก้ปัญหาการลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตรบริเวณแนวชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน ให้เป็นการนำเข้าที่ถูกต้องตามกฎหมายทั้งของไทยและระหว่างประเทศ ภายใต้ความสัมพันธ์อันดีกับประเทศเพื่อนบ้าน และการนำเข้าเกษตรที่ถูกต้องตามกฎหมายนั้น รัฐบาลต้องการให้ประชาชนและเกษตรกรได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่ จึงได้มอบให้ขบวนการสหกรณ์ในพื้นที่บริเวณชายแดนที่เกี่ยวข้องได้มีการซื้อขายแลกเปลี่ยนและนำเข้าสินค้าเกษตรต่างๆ
“ทั้งนี้ขอขอบคุณขบวนการสหกรณ์ในอำเภอแม่สอด ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ฝ่ายมั่นคง กระทรวงพาณิชย์ กรมศุลกากร ที่ได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี จนกระทั่งโครงการนี้ประสบผลสำเร็จ ทำให้สหกรณ์สามารถนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์อย่างถูกกฎหมายเป็นไปตามข้อกำหนดเขตการค้าเสรีอาเซียน กติกาโลก กติกาอาฟตาและเป็นไปตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ที่ให้นำข้าวโพดเข้าได้ ตั้งแต่ 1 กุมภาพันธ์ 2558 ถึงแม้ว่าในครั้งนี้จำนวนที่นำเข้าจะไม่มากนักแต่ก็เป็นการเรียนรู้ว่าการนำเข้าโดยขบวนการสหกรณ์ในพื้นที่บริเวณพรมแดนนั้นสามารถทำได้ ก่อนที่จะขยายไปยังจุดผ่านแดนอื่นๆ ต่อไป คิดว่านี้คือความก้าวหน้าและเป็นประวัติศาสตร์ครั้งแรกของการนำเข้าสินค้าเกษตรบริเวณชายแดนระหว่างประเทศของไทยกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างถูกต้องตามกฎหมาย” นายโอภาส กล่าว
อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่นำเข้ามาจากประเทศพม่าในครั้งนี้ดำเนินการโดยสหกรณ์นิคมแม่สอด จำกัด สหกรณ์นิคมแม่ระมาด จำกัด สหกรณ์การเกษตรพบพระ จำกัด และสหกรณ์การเกษตรบ้านตาก จำกัด จ.ตาก นำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากจังหวัดเมียวดี ประเทศเมียนมาร์ จำนวน 20,000 ตัน ซึ่งได้มีการนำเข้าข้าวโพดรอบแรกไปเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2558 จำนวน 1,000 ตัน มูลค่า 8 ล้านบาท ซึ่งผลผลิตข้าวโพดที่นำเข้าจากประเทศเมียนมาร์ สหกรณ์จะนำเข้าสู่กระบวนการปรับปรุงคุณภาพโดยการกำจัดสิ่งเจือปนออก แล้วนำเข้าโรงอบเพื่อลดความชื้นให้ได้มาตรฐานความชื้น 15 % ก่อนส่งขายต่อไปยังประเทศจีนปริมาณ 50% ของผลผลิตทั้งหมด
“กรมส่งเสริมสหกรณ์พร้อมให้การสนับสนุนการเพิ่มขีดความสามารถในการดำเนินธุรกิจซื้อขายผลผลิตการเกษตรให้แก่สหกรณ์ ทั้งการรวบรวมผลผลิต การแปรรูป การเก็บรักษา การขนส่งสินค้าและการเชื่อมโยงกับตลาด ซึ่งผลสำเร็จในการดำเนินการครั้งนี้ถือเป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญในการแก้ปัญหาสินค้าเกษตรเชิงรุก หรือสินค้าเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ ก่อนที่จะขยายผลไปยังสินค้าเกษตรอื่นๆ ได้แก่ ถั่วเขียว และพริก ในอนาคตอันใกล้นี้ ” นายโอภาส กลั่นบุศย์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าว
ที่มา : www.banmuang.co.th