เอสเอ็มอีแบงก์ลุยปล่อยกู้เพิ่มสภาพคล่อง

ข่าวสารด้านบัญชีและภาษีอากร

ข่าวสารด้านบัญชีและภาษีอากร

 

นายสุพจน์ อาวาส กรรมการผู้จัดการธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ เอสเอ็มอีแบงก์ กล่าวว่า ธนาคารเตรียมดำเนินการตามมติ ครม. ในส่วนของสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำวงเงิน 15,000 ล้านบาท ระยะเวลา 5 ปี อัตราดอกเบี้ย 7% โดยกระทรวงการคลังจะแบ่งรับภาระดอกเบี้ยให้ 3 % และลูกหนี้จ่ายเอง 4 % ซึ่งจะเน้นการปล่อยกู้ เพิ่มสภาพคล่องให้ผู้ประกอบการ และเอสเอ็มอีที่ติดแบล็คลิสต์ กับเครดิตบูโร ( บริษัทข้อมูลเครดิต ) เพื่อให้ผู้ประกอบการเหล่านี้สามารถเข้าถึงแหล่งเงิน

 

ทั้งนี้ ธนาคารจะดูประวัติการชำระหนี้ของลูกหนี้ หลังจากที่ติดแบล็คลิสต์แล้ว ยังมีความพยามยามในการทยอยชำระหนี้อย่างต่อเนื่องเป็นเวลาอย่างน้อย 1 ปี กับจะเข้าดูกิจการของลูกค้าหากเห็นว่าสภาพธุรกิจสามารถเดินหน้าต่อได้ ก็พร้อมจะปล่อยสินเชื่อเพื่อเป็นทุนหมุนเวียนในกิจการ

 

“ตามหลักแล้ว เครดิตบูโร ไม่ได้ห้ามแบงก์ไม่ให้ปล่อยกู้ที่ติดแบล็คลิสต์ แต่แบงก์ จะใช้ข้ออ้างว่าไม่ปล่อยกู้กับลูกหนี้ว่าติดเครดิตบูโร เพราะฉะนั้นจากนี้ไป ลูกหนี้รายใดที่ยังตัดใจประกอบกิจการแต่เคยติดแบล็คลิสต์ เอสเอ็มอีแบงก์ จะปล่อยกู้ให้ เพื่อช่วยเหลือคนที่ขาดแหล่งเงินทุน แต่ยังมีความตั้งใจทำมาหากินต่อไป”

 

นอกจากนี้ ครม. ยังอนุมัติมาตรการผ่อนปรนตามมติคณะกรรมการนโยบายและกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ ( คนร. ) หรือ ซุปเปอร์บอร์ด เมื่อวันที่้ 17 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยให้เอสเอ็มอีแบงก์ ปล่อยกู้ลูกค้าเดิมที่มีคุณภาพดีก่อนวันที่ซุปเปอร์บอร์ดมีมติอนุมัติ ให้สามารถปล่อยกู้ได้จากไม่เกิน 15 ล้านบาทเป็นไม่เกิน 50 ล้านบาท และให้ปล่อยกู้ลูกค้าใหม่ที่มีศักยภาพไม่เกิน 50 ล้านบาทต่อรายเช่นกัน

 

ทั้งนี้ การผ่อนปรนมาตรการดังกล่าวจะส่งผลดี ช่วยให้ลูกหนี้ที่รอการอนุมัติสินเชื่อเกินกว่า 15 ล้านบาทต่อราย ที่มีจำนวน 25 ราย คิดเป็นวงเงินราว 1,151 ล้านบาท ซึ่งเป็นกลุ่มลูกหนี้เอสเอ็มอีรายขนาดกลางที่รอการอนุมัติสินเชื่อเฉลี่ยประมาณ 40 ล้านบาทต่อรายได้มีเงินใช้หมุนเวียนประกอบกิจการต่อไป

 

ที่มา : เดลินิวส์