คาดจะมีพลังทดแทนเข้าระบบปีนี้อีก 1,800 เมกะวัตต์

ข่าวสารด้านบัญชีและภาษีอากร

ข่าวสารด้านบัญชีและภาษีอากร

 

          นายทวารัฐ สูตะบุตร รองปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวอีกว่า คาดว่าโครงการพลังงานทดแทนที่จะมีการก่อสร้างในปีนี้จะมีราว 1,800 เมกะวัตต์. หรืออาจจะมีเม็ดเงินลงทุนราว 90,000 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและช่วยลดภาวะโลกร้อนที่เกิดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล

 

          สำหรับโครงการดังกล่าวประกอบไปด้วยโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ที่แบ่งออกเป็นโซลาร์ฟาร์มค้างท่อประมาณ1,013 เมกะวัตต์โครงการพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาหรือโซลาร์รูฟท็อฟในส่วนของชาวบ้าน 70 เมกะวัตต์นั้น ได้เปิดรับซื้อใหม่เมื่อเดือน ก.พ.2558และจะปิดรับซื้อในเดือน มิ.ย.นี้

 

          ส่วนที่เหลืออีก700 เมกะวัตต์เป็นพลังงานทดแทนอื่นที่ไม่ใช่แสงอาทิตย์ในระบบ Adder เดิมส่วนใหญ่เป็นโรงไฟฟ้าชีวมวลและชีวภาพ โดยในส่วนนี้ทางกระทรวงพลังงานได้เปิดโอกาสให้ยื่นความจำนงเพื่อเดินหน้าโครงการเข้ามาภายในวันที่ 15 ธ.ค.57 ในขณะนี้อยู่ระหว่างการคัดเลือกและเสนอเรื่องเพื่อทำสัญญา จำนวน 100 โครงการ ทั้งชีวมวล ชีวภาพ อย่างไรก็ตามในส่วนนี้จะพิจารณาถึงศักยภาพแต่ละพื้นที่ว่าจะมีสายส่งรองรับหรือไม่ และความชัดเจนของเชื้อเพลิง

 

          สำหรับการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมนั้น ตามเป้าหมายในปี 64 จะรับซื้อจำนวน 1,800 เมกะวัตต์ โดยมีผู้ยื่นคำขอผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมมาแล้วถึง 1,834 เมกะวัตต์ โดยในส่วนนี้มีการผลิตแล้วกว่า 200 เมกะวัตต์ ทำให้จะไม่มีการรับซื้อไฟฟ้าใหม่จากพลังงานลมเพิ่มเติมตามแผนการส่งเสริมพลังงานทดแทนในปัจจุบัน

 

          “รัฐบาลอยู่ระหว่างการจัดทำแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้่าระยะยาว20 ปี ซึ่งในภาพรวมจะมีพลังงสนทดแทนร้อยละ20 หรือประมาณ19,000 เมกะวัตต์ซึ่งการรับซื้อไฟฟ้าพลังงานทดแทนในอนาคตจะเป็นรูปแบบใดสัดส่วนเท่าใดนั้นทั้งหมดจะมีความชัดเจนในเดือนเมษายนนี้”นายทวารัฐกล่าว 

 

ที่มา : สำนักข่าวไทย