ท่องเที่ยวโอดสูญรายได้ไม่ต่ำกว่า 250 ล้านบาท

ข่าวสารด้านบัญชีและภาษีอากร

ข่าวสารด้านบัญชีและภาษีอากร

 

 

         นายศุภฤกษ์ ศูรางกูร นายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว  ซึ่งให้บริการนำนักท่องเที่ยวไทยไปเที่ยวต่างประเทศ กล่าวถึงผลกระทบจากที่องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ  (ไอซีเอโอ) ประเมินการทำงานของกรมการบินพลเรือน (บพ.) ต่ำกว่ามาตรฐาน ว่า เรื่องดังกล่าวส่งผลกระทบให้ประเทศญี่ปุ่นระงับเที่ยวบินเช่าเหมาลำและเที่ยวบินพิเศษของสายการบินที่ออกเดินทางไปจากประเทศไทย ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่  29 มีนาคมที่ผ่านมาส่งผลให้ไม่มีเที่ยวบินนำนักท่องเที่ยวไทยออกไปท่องเที่ยวญี่ปุ่น และยังส่งผลกระทบทำให้ไม่มีเครื่องบินที่จะนำนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยในเที่ยวบินขากลับด้วย ซึ่งประเมินว่าหากสถานการณ์นี้จบปลายเดือนพฤษภาคมนนี้จะมีเที่ยวบินได้รับผลกระทบประมาณ 300-400  เที่ยวบิน ผู้โดยสารประมาณ 150,000 คน คิดเป็นยอดเงินประมาณ ไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท สำหรับตลอดปีนี้คาดว่าคนไทยจะเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศรวมประมาณ  6.5 ล้านคน จากปีที่ผ่านมามีจำนวน 6.2 ล้านคน ในจำนวนนี้เป็นการออกไปท่องเที่ยว สปป.ลาวและมาเลเซียประมาณ  3.5 ล้านคน

 

          นอกจากนี้ ยังส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศ โดยเฉพาะภาพลักษณ์การเดินทางทางอากาศ ที่ปัจจุบันมีการแข่งขันของสายการบินต่าง ๆ  สูงและเข้มข้นอยู่แล้ว การมีข่าวลักษณะนี้ จึงไม่เป็นผลดีต่ออุตสาหกรรมการบินของประเทศไทย และยังกังวลว่าอาจจะมีประเทศอื่น ๆ ออกคำสั่ง เช่นเดียวกับญี่ปุ่นหรือไม่ เช่น ขณะนี้จีน เกาหลี ระงับเที่ยวบินเช่าเหมาลำของไทย ซึ่งด้านการท่องเที่ยว นับเป็นช่วงนี้ใกล้เทศกาลสงกรานต์ ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซันของไทยที่คนไทยจะออกเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศจำนวนมาก ขณะเดียวกันช่วงต้นเดือนพฤษภาคมนี้เป็นวันหยุดวันแรงงานของประเทศจีน ก็จะมีคนจีนต้องการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยจำนวนมาก  และยังเป็นช่วงโกลเด้นวีค ซึ่งเป็นวันหยุดระยะยาวของญี่ปุ่นที่จะมีนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นออกเดินท่องเที่ยวนอกประเทศมากที่สุดทุกปีอีกด้วย

 

           นายศุภฤกษ์ กล่าวว่า ต้องการให้นายกรัฐมนตรีลงมากำกับดูแลแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วก่อนที่เรื่องจะบานปลายมากกว่านี้   ส่วนอื่น คือ สายการบินที่งดเที่ยวบินจะต้องช่วยหาทางออก ในเรื่องการผ่องถ่ายนักท่องเที่ยวไทยที่จะเดินทางออกไปท่องเที่ยวต่างประเทศให้มีทางออกสามารถเดินทางไปกับสายการบินอื่น ๆ แทน เช่น  ตอนนี้บางสายการบิน  เช่น นกสกู๊ต แก้ไขโดยใช้ใบอนุญาตการบินของนกสกู๊ดสิงคโปร์ทำการบินแทน นอกจากนี้ ในกรณีที่ไม่สามารถบินได้จริง ๆ ขอร้องให้สายการบินคืนเงินค่าโดยสารให้กับบริษัทนำเที่ยวโดยเร่งด่วน  อย่าให้เป็นไปตามขั้นตอนที่ต้องใช้เวลานาน 1-2 เดือน เพราะบริษัทนำเที่ยวจะต้องเร่งคืนเงินกับนักท่องเที่ยว  หากทำได้จะช่วยให้สายป่านในการดำเนินธุรกิจของบริษัทนำเที่ยวดีขึ้นและยังคงสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้

 

           นายเจริญ วังอนานนท์ นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) ซึ่งทำหน้าที่นำนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวไทย ยอมรับว่าการถูกระงับเที่ยวบินเช่าเหมาลำและเที่ยวบินพิเศษของเที่ยวบินที่ออกเดินทางไปจากประเทศไทย ส่งผลกระทบต่อจำนวนเที่ยวบินที่จะนำนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะจากญี่ปุ่นและจีนที่จะเข้ามาท่องเที่ยวในไทยด้วยเช่นกัน   โดยประเมินว่าในช่วงเดือนเมษายนถึงพฤษภาคมคมนี้นักท่องเที่ยวเฉพาะจากญี่ปุ่น ได้รับผลกระทบแล้วประมาณ 5,000 คน และจะคาบเกี่ยวต่อเนื่องไปยังเดือนพฤษภาคมอีกประมาณ  5,000 คน ซึ่งเป็นตลาดระดับพรีเมี่ยม เพราะนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นเมืองรอง เช่น โคมัทสึและฮิโรชิมา และอีกหลายเมืองหากไม่สามารถหาเครื่องบินนำนักท่องเที่ยวให้สามารถเดินทางเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยได้ก็จะไม่ส่งผลดี  เพราะเป็นกลุ่มระดับพรีเมี่ยม   หากพักในประเทศไทย 3 คืน จะมีค่าใช้จ่ายในไทยต่อคนไม่รวมค่าช็อปปิ้งและอาหารถึงคนละประมาณ  50,000 บาท  หรือประมาณไม่ต่ำกว่า  250  ล้านบาท

 

           นายเจริญ กล่าวว่า  ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาประเทศไทยทำข้อตกลงแลกเปลี่ยนนักท่องเที่ยวกับ 3 ประเทศ คือ เกาหลี ญี่ปุ่น และจีน ซึ่งขณะนี้การท่องเที่ยวนี้ติดตลาดสามารถนำนักท่องเที่ยวออกไปเที่ยวเมืองรองของการท่องเที่ยวได้แล้ว จึงเป็นตลาดที่เติบโตสูงมาก จึงเป็นที่น่าเสียดายที่เกิดเหตุการณ์นี้  อย่างไรก็ตาม ยังประเมินว่าไม่ได้ว่ารัฐบาลไทยจะแก้ปัญหาเสร็จเมื่อใด  สำหรับเป้าหมายนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทยตลอดปีนี้ ยังคงประเมินไว้ที่  28 ล้านคน โดยในจำนวนนี้   5.5 ล้านคนใช้บริการผ่านสมาชิกของสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยวที่สามารถวัดการใช้จ่ายได้ ส่วนที่เหลือเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มอื่น ๆเช่น แบ๊คแพ็ค เป็นต้น.

 

ที่มา : สำนักข่าวไทย