นายสมชาย พิพุธวัฒน์ อธิบดีกรมการบินพลเรือน เปิดเผยภายหลังจากที่ 5 สายการบินของไทยเข้าพบหลังจากได้รับกระทบจากการประกาศของกรมการบินพลเรือนญี่ปุ่นหรือ JCABว่า สายการบินทั้ง 5 บริษัทได้แก่นกสกู๊ต การบินไทย ไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ เอเชียแอตแลนติก และเจ็ทเอเชียได้เข้าร่วมประชุมเพื่อตั้งทีมไทยแลนด์ เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นกับกรมการบินพลเรือนของไทย โดยทั้ง 5 สายการบินจะคอยสนับสนุนนโยบายต่างๆที่ออกมาจากหน่วยงานของกระทรวงคมนาคมและกรมการบินพลเรือน โดยผู้ประกอบการสายการบินก็จะประสานงานไปยังไอเคโอ้ให้เข้ามาตรวจสอบความปลอดภัยของแต่ละสายการบิน โดยไม่ต้องรอการแก้ไขของกรมการบินพลเรือน
ทั้งนี้ หากประเทศไทยไม่สามารถแก้ไขปัญหาตามที่องค์การบินพลเรือนระหว่างประเทศ หรือไอเคโอ้ต้องการภายในระยะเวลา8เดือนจะส่งผลให้ผู้โดยสารที่เดินทางด้วยสายการแบบเช่าเหมาลำ หรือ ชาร์เตอร์ไฟล์ เส้นทางไป-กลับกรุงเทพ-ญี่ปุ่น จะได้รับผลกระทบมากกว่า 1 แสน2หมื่นคนแบ่งในช่วงเดือนเมษายน 2558ประมาณ 7หมื่นคนและช่วงพฤษภาคม 2558 ประมาณ5หมื่นคน
ด้านมาตรการเยียวยาในเบื้องต้นได้มอบหมายให้ ทางสายการบินดำเนินการแก้ไขด้วยการโอนผู้โดยสารกระจายไปยังเส้นทางบินประจำแทน หากยังมีความต้องการเดินทางอยู่ โดยผู้ประกอบการสายการบินระหว่างประเทศที่อยู่ระหว่างการขอใบรับรองผู้ดำเนินการทางอากาศหรือ Aoc ประมาณ 23 สายการบินที่จะถูกระงับการออกใบอนุญาตออกไปก่อนเนื่องจากยังอยู่ระหว่างการปรับปรุงมาตรฐานองค์กรให้เป็นไปตามมาตรฐานไอเคโอ้
ทั้งนี้ กรมการบินพลเรือนของไทยจะต้องเร่งจัดหาบุคลากรให้ได้ภายใน2เดือน เพื่อให้เข้ามาบริหารจัดการ และทบทวนบทบาทโครงสร้างองค์กรใหม่ให้มีความทันสมัยควบคู่กับการเพิ่มกำลังคนและแก้กฏหมายให้สอดคล้องกับสถานการณ์มากขึ้น.
ที่มา : สำนักข่าวไทย