ขสมก.มั่นใจรถเมล์เอ็นจีวีเดินหน้าได้ต่อ

ข่าวสารด้านบัญชีและภาษีอากร

ข่าวสารด้านบัญชีและภาษีอากร

 

          นางปราณี ศุกระศร รักษาการผู้อำนวยการ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ ขสมก. เปิดเผยว่า ขายซองประกวดราคาจัดซื้อรถโดยสารใช้ก๊าซธรรมชาติ NGV จำนวน 489 คัน ได้ปิดขายซองเมื่อวันที่ 26 มีนาคม ที่ผ่านมา โดยมีผู้สนใจซื้อซอง 13 ราย โดยเป็นรายเดิม 2 ราย และล่าสุดพบว่า ในจำนวนดังกล่าว มีผู้มายื่นซองคุณสมบัติและเทคนิค 5 ราย มากกว่า 2 ครั้งที่ผ่านมา และคาดว่าจะสามารถตรวจคุณสมบัติ จนทราบว่ามีเอกชนที่มีเอกสาร และคุณสมบัติครบถ้วน กี่ราย ในวันนี้ (7 เม.ย.)

 

          โดยขสมก มั่นใจว่ารอบนี้จะได้ผู้ชนะการประมูล ไม่ต้องเปิดขายซองในรอบที่ 4 อย่างแน่นอน โดยมีกำหนดเคาะราคาประมูล.  วันที่ 20 เมษายนนี้.  และภายหลังจากได้ผู้ชนะการประมูล จากนั้นก็จะทยอยรับมอบรถตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ต่อเนื่องไปจนถึงเดือนกรกฎาคมจนครบ 489 คัน สำหรับราคากลางในโครงการอยู่ที่ 3.65 ล้านบาท ต่อคัน หรือประมาณ 1,784  ล้านบาท

 

          ทั้งนี้ ขสมก.เตรียมปลดระวางรถออกไปประมาณ 100 คัน หลังจากได้รถเมล์เอ็นจีวี 489 คันมาแล้ว รวมถึงจะนำเสนอทางคณะกรรมการ ขสมก. ส่งเรื่องไปยัง คณะกรรมการนโยบายกำกับรัฐวิสาหกิจ  หรือ คนร. พิจารณาปรับปรุงรถที่มีอยู่ประมาณ 2,600 คัน เพื่อยกระดับการให้บริการ เนื่องขอให้ทางกระทรวงการคลังกู้เงินและค้ำประกันเงินกู้ เพื่อให้ขสมก. มาปรับปรุงรถ จำนวน 520 ล้านบาท เนื่องจากมีการชะลอการประมูลรถเมล์ในล๊อตที่เหลือ 2,694 คัน

 

          เนื่องจากต้องศึกษาความเหมาะสมของการใช้งาน และศักยภาพของรถ 489 คันที่นำมาใช้ก่อนว่าเป็นอย่างไร เพราะมีข้อเสนอให้ใช้รถเมล์ไฟฟ้าเข้ามาด้วย เพื่อไม่ให้มีปัญหาเรื่องของเชื้อเพลิง เพราะราคาเอ็นจีวีที่ขยับตัวสูงขึ้น แต่ก็ยังคงติดปัญหาที่ราคาค่อนข้างแพง ราคาเบื้องต้นอยู่ที่คันละ 12 ล้านบาท ส่วนอู่รถของขสมก. นั้นกำลังดำเนินการปรับปรุงให้เกิดความทันสมัย จำนวนทั้งสิ้น 10 อู่ ใช้งบทั้งสิ้น 400 ล้านบาท

 

          สำหรับเส้นทางการเดินรถใหม่นั้น ทางกรมการขนส่งทางบกได้ศึกษาไว้ในเบื้องต้น 190 เส้นทาง โดยเป็นรถร่วม 95 เส้นทาง รถขสมก. 95 เส้นทาง โดยได้ลดลงจากเดิมที่มีอยู่ 114 เส้นทาง แต่ทั้งนี้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร หรือสนข. จะต้องนำไปพิจารณาเส้นทางใหม่อีกครั้ง เพื่อให้สอดคล้องกับเส้นทางรถไฟฟ้าที่จะเปิดให้บริการในอนาคตด้วย.

 

ที่มา : สำนักข่าวไทย