นายวิฑูรย์ กุลเจริญวิรัตน์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) เปิดเผยว่าธพ.ได้ปรับเพิ่มสัดส่วนไบโอดีเซลในน้ำมันดีเซลหมุนเร็วจาก 3.5 % เป็น 7%มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 16 เม.ย.เป็นต้นไปเพื่อดูดซับผลผลิตน้ำมันปาล์มดิบส่วนที่เกินความต้องการของตลาดภายในประเทศซึ่งเป็นไปตามมติของคณะอนุกรรมการ เพื่อบริหารจัดการปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม ที่ให้เพิ่มสัดส่วนผสมไบโอดีเซลในน้ำมันดีเซลเนื่องจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้รายงานสถานการณ์ผลผลิตน้ำมันปาล์มว่ามีผลผลิตออกสู่ตลาดเพิ่มมาก ส่งผลให้ราคาปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มดิบในประเทศมีแนวโน้มลดลง และคาดว่าจะมีสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบของประเทศคงเหลือประมาณ 170,000 ต้น
“เดือนมี.ค. ที่ผ่านมา ยอดการใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็วอยู่ที่ 60ล้านลิตรต่อวัน คาดว่า หลังจากปรับสัดส่วนไบโอดีเซลเป็น บี 7แล้ว จะสามารถเพิ่มยอดการใช้ไบโอดีเซลในเดือนเม.ย.เป็น 3.7 ล้านลิตรต่อวัน จากยอดการใช้ไบโอดีเซลปัจจุบัน 2.2 ล้านลิตรต่อวันเชื่อว่า จะช่วยป้องกันผลผลิตปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มดิบล้นตลาด และช่วยพยุงราคาน้ำมันปาล์มในประเทศไม่ให้ตกต่ำรวมถึงยังเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรและกระตุ้นเศรษฐกิจ”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ผ่านมาคณะอนุกรรมการด้านการตลาดปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มมีมติให้กระทรวงพลังงานปรับเพิ่มสูตรการผลิตไบโอดีเซลเติมลงในน้ำมันดีเซลจาก3.5% ไปเป็น บี 7 เหมือนเดิมเนื่องจากขณะนี้ปริมาณผลผลิตปาล์มเริ่มออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่องดังนั้นจึงต้องป้องกันไม่ให้เกิดภาวะล้นตลาด ซึ่งการเพิ่มน้ำมันดีเซลจากบี3เป็น บี 7ทำให้ปริมาณการใช้ผลผลิตปาล์มเพิ่ม 70,000 ตันต่อเดือนพร้อมทั้งประสานการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ.นำผลผลิตปาล์มไปผลิตไฟฟ้าเพิ่มเติมที่โรงไฟฟ้าที่จังหวัดกระบี่และยังขอความร่วมมือภาคเอกชน ทั้งโรงสกัด โรงกลั่นรับซื้อปาล์มสดจากเกษตรกรในราคาเป้าหมายไม่ต่ำกว่าราคาปัจจุบันและขอให้เกษตรควบคุมคุณภาพไม่เร่งเก็บผลผลิตปาล์มก่อนกำหนด
ที่มา : เดลินิวส์