ครม.เศรษฐกิจคาดจีดีพีไตรมาสแรกขยายตัวร้อยละ 3

ข่าวสารด้านบัญชีและภาษีอากร

ข่าวสารด้านบัญชีและภาษีอากร

 

          นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการคมนาคม ในฐานะเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า ได้รายงานที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานรับทราบดัชนีตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ พบว่าสัญญาณเศรษฐกิจที่เคยเป็นห่วงกลับมาดีขึ้นหลายตัว โดยเฉพาะแผนเงินกู้โครงการลงทุนจากแผนกระตุ้นเศรษฐกิจรอบ 2 วงเงิน 40,000 ล้านบาท ของกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท เพื่อสร้างเส้นทางในต่างจังหวัด คาดว่าเดือนพฤษภาคมจะเบิกจ่ายได้ร้อยละ 55 ของวงเงินทั้งหมด

 

           ส่วนการลงทุนภาคเอกชน เช่น ภาคอสังหาริมทรัพย์ พบว่ามีการก่อสร้างที่อยู่อาศัย อาคารพาณิชย์ ศูนย์การค้าขนาดเล็กในต่างจังหวัดเพิ่มขึ้น รวมทั้งการสร้างอาคารตามแนวชายแดน ขณะที่การบริโภคของประชาชน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานว่าขยายตัวร้อยละ 1-2 การส่งออก 2 เดือนแรกติดลบร้อยละ 4 เมื่อตัดการนำเข้าส่งออกน้ำมัน ทองคำแล้วติดลบร้อยละ 3 ครม.เศรษฐกิจจึงต้องการหันมาพึ่งพาการค้าตามแนวชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะโครงการพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตามแนวชายแดนทดแทนการส่งออกซึ่งยังชะลอตัว

 

           อย่างไรก็ตาม แม้การส่งออกจะติดลบ แต่ดุลบัญชีเดินสะพัดกลับขยายตัวเป็นบวกถึง 6,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และดุลการชำระเงินของประเทศเป็นบวก 2,889 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้เงินบาทแข็งค่า ครม.เศรษฐกิจจึงกำชับให้ ธปท. ดูแลค่าเงินบาทไม่ให้แข็งค่ามากเกินไปจนกระทบต่อผู้ส่งออก ที่ประชุมยังพอใจกับยอดนักท่องเที่ยวต่างประเทศ ซึ่งขยายตัวดีต่อเนื่อง โดยยอดนักท่องเที่ยวตั้งแต่เดือนมกราคม-15 เมษายน ขยายตัวร้อยละ 26 โดยเฉพาะการท่องเที่ยวในช่วงเทศกลวันสงกรานต์มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาจำนวนมาก ทั้งจีน ยุโรป เอเชีย เมื่อประเมินภาพรวมเศรษฐกิจไตรมาสแรก คาดว่าขยายตัวได้ร้อยละ 3 และเติบโตดีต่อเนื่องไตรมาสต่อไป หลังจากการลงทุนภาครัฐเพิ่มมากขึ้น รัฐบาลยังเชื่อมั่นจีดีพีตามกรอบขยายตัวร้อยละ 3.5-4.5 ปีนี้

 

           นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีกำชับกระทรวงการคลังและ ธปท. ให้ดูแลการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของรายย่อย ทั้งพ่อค้าแม่ค้า ชาวบ้าน โดยเฉพาะโครงการนาโนไฟแนนซ์ให้มีความคืบหน้าในการดำเนินโครงการ และกำชับโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของรัฐ เช่น การสร้างเส้นทางคมนาคม แผนบริหารจัดการน้ำ การค้าตามแนวชายแดน ต้องรายงานความคืบหน้าต่อที่ประชุม ครม.เศรษฐกิจทุกสัปดาห์ เนื่องจากดัชนีตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจหลายตัวที่เคยเป็นห่วงกลับมาดีขึ้น

 

          ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุม ครม.เศรษฐกิจกำชับให้โครงการลงทุนกระตุ้นเศรษฐกิจงวดแรกวงเงิน 23,000 ล้านบาท เพื่อใช้สร้างถนน สะพาน โรงพยาบาลขนาดเล็กในชุมชน โดยกำหนดลงนามให้เสร็จภายในวันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้เบิกจ่ายไปแล้ว 15,000 ล้านบาท สำหรับภาพรวมเศรษฐกิจโลกมีเพียงสหรัฐเท่านั้นที่ดีขึ้น ขณะที่จีนลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นมาแล้ว 2 ครั้ง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ จึงหวังว่าจะเป็นผลดีต่อการส่งออกของไทย.

 

ที่มา : สำนักข่าวไทย