นางสาวอุไรพรรณ์เจริญรัถและ นายภาสกร ตาปสนันทน์
เมื่อกล่าวถึง “นาโนไฟแนนซ์” หลายท่านคงเคยได้ยินคํานี้เนื่องจากเป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจของประชาชนและสังคมตลอดช่วงระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา อย่างไรก็ดีบางท่านอาจยังมีข้อสงสัยว่านาโนไฟแนนซ์ คืออะไร ทําไมต้องมีสินเชื่อประเภทนี้ใครกู้ได้บ้าง เงื่อนไขเป็นอย่างไรมีหลักเกณฑ์ในการประกอบธุรกิจอย่างไร และถ้าสนใจทําธุรกิจนี้ต้องทําอย่างไรวันนี้เราจะมาทําความรู้จัก นาโนไฟแนนซ์ให้มากขึ้น
นาโนไฟแนนซ์ มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า สินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกํากับเป็นสินเชื่อที่ภาครัฐต้องการให้การสนับสนุนเนื่องจากเห็นปัญหาของประชาชนรายย่อยที่ต้องการใช้เงินทุนเพื่อการประกอบอาชีพ แต่ไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อในระบบสถาบันการเงินได้ เพราะไม่มีเอกสารหลักฐานที่ใช้แสดงแหล่งที่มาของรายได้และไม่มีทรัพย์สินที่จะนํามาเป็นหลักประกันในการกู้ยืมเงิน ทําให้ประชาชนกลุ่มนี้อาจต้องไปกู้เงินนอกระบบที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงมาก จนมีภาระหนี้เกินตัวและอาจถูกติดตามทวงถามหนี้ด้วยพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมจนเกิดเป็นอันตรายได้ดังนั้น สินเชื่อนาโนไฟแนนซ์จึงเป็นสินเชื่อที่มีวัตถุประสงค์ที่ช่วยให้ประชาชนรายย่อยมีเงินทุนเพื่อนําไปประกอบอาชีพเพื่อสร้างรายได้และจะช่วยลดปัญหาอันอาจเกิดจากการก่อหนี้นอกระบบได้ซึ่งจะส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศโดยรวมต่อไป ด้วยเหตุผลดังกล่าวสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์จึงถูกกําหนดให้เป็นสินเชื่อที่ให้แก่บุคคลธรรมดาเพื่อนําเงินไปใช้ในการประกอบอาชีพโดยไม่ต้องมีหลักประกันซึ่งกระบวนการอนุมัติสินเชื่อของผู้ประกอบธุรกิจนาโนไฟแนนซ์จะมีความยืดหยุ่นสอดคล้องกับลักษณะของกลุ่มผู้กู้ คือ ผู้กู้อาจจะยังไม่มีเอกสารแสดงรายได้ที่แน่นอนและไม่มีทรัพย์สินที่จะมาเป็นหลักประกันการกู้ยืมได้อย่างไรก็ดีเพื่อไม่ให้ประชาชนมีภาระหนี้มากเกินไป จึงไดได้จํากัดวงเงินกู้สูงสุดต่อรายไว้ไม่เกิน 100,000 บาทและกําหนดเพดานอัตราดอกเบี้ยสูงสุดรวมค่าธรรมเนียม ค่าบริการต่างๆ และเบี้ยปรับ (อัตราดอกเบี้ยฯ) ไว้ไม่เกินร้อยละ 36 ต่อปี ดังนั้น ผู้ประกอบธุรกิจนาโนไฟแนนซ์ จะไม่สามารถเรียกเก็บค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เช่น ค่าติดตามทวงถามหนี้จากผู้กู้เพิ่มเติมจากอัตราดังกล่าวได้อีก ทั้งนี้จะเห็นได้ว่า ดอกเบี้ยที่ผู้ประกอบธุรกิจจะเรียกเก็บได้นั้นแม้จะต่ำกว่าสินเชื่อนอกระบบ แต่ก็ยังคงสูงกว่าสินเชื่อในระบบประเภทอื่น เนื่องจากผู้กู้ยังไม่มีหลักฐานแสดงรายได้ที่แน่นอน หรือผู้กู้อาจไม่เคยมีข้อมูลที่สามารถแสดงประวัติในการชําระหนี้ได้จึงมีความเสี่ยงด้านเครดิตสูงกว่าสินเชื่อประเภทอื่น
ทั้งนี้หลักเกณฑ์ในการประกอบธุรกิจนาโนไฟแนนซ์ ไม่ได้กําหนดเกี่ยวกับคุณสมบัติของผู้กู้รายได้ขั้นต่ำของผู้กู้เอกสารหลักฐานที่ต้องใช้ประกอบการขอสินเชื่อระยะเวลาของสัญญาสินเชื่อ หรือจํานวนเงินที่ต้องชําระในแต่ละงวดโดยให้เป็นไปตามนโยบายของผู้ประกอบธุรกิจที่จะกําหนดแนวทางในการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อได้เองตามความเหมาะสมกับความสามารถในการชําระหนี้ของผู้กู้แต่ละรายกล่าว คือ ผู้กู้จะได้รับสินเชื่อเมื่อผู้ประกอบธุรกิจพิจารณาแล้วว่าผู้กู้มีความสามารถในการชําระหนี้อย่างไรก็ดีเพื่อเป็นการสนับสนุนให้ผู้ประกอบธุรกิจนาโนไฟแนนซ์มีการดําเนินธุรกิจอย่างโปร่งใสมีการให้บริการอย่างเป็นธรรมและคํานึงถึงผู้บริโภคจึงได้มีการกําหนดหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองผู้บริโภคในเรื่องต่างๆ เช่น การเปิดเผยข้อมูลอัตราดอกเบี้ยที่จะเรียกเก็บ การจัดทําตารางแสดงการชําระหนี้ให้แก่ผู้กู้การจัดส่งใบแจ้งหนี้การกําหนดช่วงเวลาที่จะสามารถติดต่อผู้กู้ได้และการดําเนินการในกรณีที่มีข้อร้องเรียน
จะเห็นได้ว่าการให้สินเชื่อนาโนไฟแนนซ์มีลักษณะที่ยืดหยุ่นกว่าสินเชื่อประเภทอื่น เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนรายย่อยสามารถเข้าถึงสินเชื่อในระบบได้อย่างไรก็ดี หากผู้กู้มีข้อมูลหรือหลักฐานแสดงรายได้ที่แน่นอนสามารถใช้ในการวิเคราะห์ความเสี่ยงได้ผู้ประกอบธุรกิจก็ควรเสนอสินเชื่อประเภทอื่นที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าร้อยละ 36 เพื่อลดภาระของผู้กู้ด้วย
ผู้ประกอบธุรกิจที่สามารถให้สินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ได้ ได้แก่ ธนาคารพาณิชยืบริษัทเงินทุน และผู้ประกอบธุรกิจที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน โดยหากธนาคารพาณิชย์และบริษัทเงินทุนต้องการให้สินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ก็สามารถดําเนินการได้เลยแต่หากเป็นผู้ประกอบธุรกิจที่ไม่ใช่ธนาคารพาณิชย์หรือบริษัทเงินทุนจะต้องได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจึงจะสามารถประกอบธุรกิจให้สินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ได้ โดยจะต้องจัดตั้งเป็นบริษัทจํากัดหรือบริษัทมหาชนจํากัดมีทุนจดทะเบียนไม่ต่ำากว่า 50 ล้านบาท และต้องมีอัตราส่วนหนี้สินรวมทั้งสิ้นต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (Debt to Equity ratio) ไม่เกิน 7 เท่า โดยผู้ที่สนใจประกอบธุรกิจให้ขออนุญาตผ่านธนาคารแห่งประเทศไทยโดย download แบบคําขอรับใบอนุญาตจาก www.bot.or.th และนําส่งแบบคําขอพร้อมเอกสารมายังสํานักงานใหญ่ หรือสํานักงานภาคของธนาคารแห่งประเทศไทย
จากที่กล่าวมาข้างต้น หลายฝ่ายจึงมีความคาดหวังว่าสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์จะช่วยสนับสนุนให้ประชาชนสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อการกู้ยืมเงินได้สะดวกมากขึ้น ซึ่งจะทําให้มีเงินทุนมาใช้ในการประกอบอาชีพเพื่อหารายได้ให้ตนเองได้และช่วยลดปัญหาหนี้นอกระบบ อย่างไรก็ดีสิ่งสําคัญที่ผู้กู้ควรคํานึงถึงในการกู้ยืมเงินนั้น คือ ความสามารถในการชําระหนี้ของตนเองโดยไม่ควรก่อภาระหนี้จนเกินตัว และควรมีวินัยทางการเงิน โดยจะต้องชําระหนี้ตามกําหนดเวลา เพื่อไม่ให้เกิดภาระหนี้สินที่สะสมหรือพอกพูนมากยิ่งขึ้น
------------------------------------------------------------------------
บทความนี้เป็นข้อคิดเห็นส่วนบุคคลจึงไม่จําเป็นต้องสอดคล้องกับความเห็นของธนาคารแห่งประเทศไทย
บทความโดย : นางสาวอุไรพรรณ์เจริญรัถและ นายภาสกร ตาปสนันทน์
ที่มา : ธนาคารแห่งประเทศไทย (ฺBOT)