นางสาวผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้าให้ความสำคัญต่อการสร้างธรรมาภิบาลแก่ภาคธุรกิจอย่างมาก เนื่องจากการเข้าสู่ตลาดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ตามนโยบายของรัฐบาลประเทศอาเซียนปลายปีนี้ ทำให้ธุรกิจเกิดการแข่งขันกันอย่างรุนแรง เนื่องจากมีความเป็นเสรีของการเคลื่อนย้ายสินค้าและบริการ รวมถึงปัจจัยการผลิตทั้งเงินทุน และแรงงานระหว่างประเทศอาเซียน คือ ธุรกิจที่เริ่มต้นในประเทศอาเซียนประเทศใดประเทศหนึ่งจะสามารถขยายไปทั่วอาเซียนได้อย่างเสรี เกิดตลาดที่ใหญ่ขึ้นมีประชากรกว่า 600 ล้านคน ซึ่งธุรกิจจะมีโอกาสทำกำไรสูงขึ้น

          อย่างไรก็ตาม ความสามารถของธุรกิจในอาเซียนไม่แตกต่างกันมาก เพราะต้องทำธุรกิจภายใต้ภาวะแวดล้อมเดียวกัน คือ มีต้นทุนราคาวัตถุดิบคล้ายกัน ใช้เทคโนโลยีเหมือนกัน และคุณภาพแรงงาน และระบบภาษีแต่ละประเทศแตกต่างกันไม่มาก แต่ประเด็นที่จะช่วยสร้างความแตกต่างให้แก่ธุรกิจในสายตาของต่างชาตินำไปประกอบการพิจารณาตัดสินใจเลือกร่วมทุนหรือลงทุนเพื่อขยายธุรกิจ และให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ธุรกิจใดก็ตาม คือ การมีระบบธรรมาภิบาลในการบริหารจัดการธุรกิจ จะช่วยสร้างความมั่นใจและได้รับการยอมรับจากสาธารณชนและนักลงทุนหรือธุรกิจต่างชาติในการเลือกพันธมิตรทางธุรกิจ ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนทางการเงินและสร้างความยั่งยืนให้แก่ธุรกิจระยะยาว

          ทั้งนี้ กรมพัฒนาธุรกิจการค้าจัดทำโครงการประกวดธรรมาภิบาลธุรกิจดีเด่นมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2554 เพื่อรณรงค์ให้ภาคธุรกิจดำเนินกิจการบนพื้นฐานของหลักธรรมาภิบาล 6 หลัก ได้แก่ หลักนิติธรรม คุณธรรม ความโปร่งใส การมีส่วนร่วม ความรับผิดชอบ และความคุ้มค่า ซึ่งการบริหารธุรกิจตามหลักธรรมาภิบาลที่ดีหมายถึงการทำธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมาย มีความน่าเชื่อถือในสายตาของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และการมีภาพลักษณ์และชื่อเสียงที่ดีจะช่วยลดต้นทุนทางการเงินให้แก่ธุรกิจได้ ในการประกวดดังกล่าว กรมฯ มีขั้นตอนการดำเนินงาน 3 ขั้นตอน คือ 1.ผู้สมัครประเมินตนเองโดยกรอกข้อมูลประเมินตนเองจากใบสมัคร 2.การประเมินโดยผู้ทรงคุณวุฒิในแต่ละจังหวัด และ 3. ตัดสินการประกวดโดยคณะกรรมการตัดสินการประกวดธรรมาภิบาลธุรกิจดีเด่น ประจำปี 2558 พร้อมทั้งมอบโล่เพื่อประกาศเกียรติคุณต่อไป ผู้ประกอบธุรกิจที่สนใจสมัครเข้าร่วมประกวดฯ ได้ที่กองธรรมาภิบาลธุรกิจ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และสำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าทุกจังหวัด ตั้งแต่บัดนี้จนถึง 31 พฤษภาคม 2558 สามารถดูรายละเอียดทางเว็บไซต์ www.dbd.go.th หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร.0 2547 4511 หรือสายด่วน 1570. 

ที่มา : สำนักข่าวไทย