นายธิติ ตันติกุลานันท์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภาพรวมเศรษฐกิจโลกหลายประเทศแข่งขันการลดดอกเบี้ย เพื่อทำให้ค่าเงินของตนเองอ่อนลง หวังกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ ทั้งญี่ปุ่น ยุโรป และการลดดอกเบี้ยจีนเสมือนการทำคิวอีอีกด้านหนึ่ง ดังนั้นกระแสเงินทุนตลาดโลกจึงไหลเข้าออกผันผวน
สำหรับผลประกอบการในช่วงไตรมาสแรกของปี 2558 บริษัทมีผลประกอบการเกินเป้าหมายกคาดการณ์ไว้ โดยมีกำไรสุทธิ 300 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 30 จากกำไรสุทธิในปี 2557 ซึ่งมีกำไร 900 ล้านบาท เนื่องจากไตรมาสแรก ตลาดอยู่ในทิศทางบวก ส่งผลให้ตัวเลขปริมาณการซื้อขายรวมทั้งตลาดเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 20 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยเฉพาะการซื้อขายจากนักลงทุนรายย่อย และจากภาวะตลาดที่อยู่ในทิศทางที่ดีในช่วงไตรมาสแรกของปีส่งผลให้บริษัทสามารถเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดในไตรมาสที่ 1ปี 2558 เป็นร้อยละ 4.48 เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่าน ที่มีส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 4.19 บริษัทมีลูกค้าใหม่ 6,600 คน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 20 เมื่อเทียบกับจำนวนลูกค้าใหม่ในปี 2557
นายกวี ชูกิจเกษม รองกรรมการผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย กล่าวว่า ช่วงนี้ตลาดหุ้นได้ปรับฐานและยังมีความเสี่ยงในด้านลบจึงมีแนวโน้มปรับลดลงได้อีก คาดว่าจุดต่ำสุดมองไว้ 1,450 จุด เป็นการปรับลดลลงตามปัจจัยพื้นฐาน เดิมคาคการณ์จะมีกำไรต่อหุ้น 140 บาทต่อหุ้นลดเหลือ 110 บาทต่อหุ้น และยังมีสาเหตุจากในช่วง พ.ค.-มิ.ย.นักลงทุนต่างชาติมักจะถอนทุนกลับประเทศ จึงส่งผลโดยตรวต่อค่าเงินบาทอ่อนค่าลงไปอีก และช่วงที่ผ่านมา กนง.ได้ปรับลดดอกเบี้ยระยะสั้น ส่งผลให้ค่าเงินอ่อนค่าไปอีก
ประกอบกับข่าวปัญหาของเศรษฐกิจกรีซ จึงมีผลทำให้นักลงเทขายเพื่อปรับพอร์ตการลงุน อย่างไรก็ตาม สำหรับแนวโน้ม ตลาดหุ้นที่อาจปรับสูงขึ้น ใน่ช่วงครึ่งปีหลังเนื่องจากหลังจากค่าเงินบาทอ่อนค่า จะส่งผลดีต่อการส่งออกตั้งแต่ไตรมาส 3 เป็นต้นไป ประกอบกับโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของรัฐ ทั้งรถไฟฟ้า มอเตอร์เวย์ จะทำให้การลงทุน การบริโภคดีขึ้น และส่งผลต่อดับชนีตลาดหุ้นดีขึ้น มองว่าในช่วงท้ายปีอยู่ในระดับประมาณ 1,600 จุด
โดย บล.กสิกรไทย คาดการณ์ว่า จีดีพีของประเทศขยายตัวร้อยละ 2.8 เนื่องจากครึ่งปีแรกได้รับแรงกดดันจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจนภูมิภาค ส่งผลต่อการชะลอตัวการส่งออกของไทย ทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้.
ที่มา : สำนักข่าวไทย