นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ได้เป็นประธานเปิดโครงการ”ลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพโลจิสติกส์ ครั้งที่ 7” เพื่อให้ผู้ประกอบการค้าระหว่างประเทศ และผู้ให้บริการด้าน โลจิสติกส์ของไทย ที่ผ่านการคัดเลือกทั้งสิ้นจำนวน 30 บริษัทสามารถได้รับรู้และปรับตัวทันกับเหตุการณ์เศรษฐกิจโลกที่เปลี่ยนแปลงไป

          ทั้งนี้ ยอมรับว่าขณะนี้ ประเทศไทยเผชิญกับกระแสเศรษฐกิจโลกที่เคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและมี การแข่งขันทางธุรกิจทวีความรุนแรงขึ้นทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก ดังนั้น ผู้ประกอบการไทยต้องพบกับความท้าทายรอบด้าน ซึ่งการรวมตัวเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปลายปี 2558 นี้ เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลให้ผู้ประกอบการธุรกิจการค้าและบริการของไทยจำเป็นต้องปรับตัวให้ทันกับกระแสการเคลื่อนย้ายสินค้าและบริการในภูมิภาคที่เพิ่มขึ้น ซึ่งการบริหารจัดการโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ จึงเป็นกลยุทธ์สำคัญที่จะสร้างความได้เปรียบทางธุรกิจและเอื้อประโยชน์โดยตรงต่อการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต การบริหารจัดการองค์กร รวมถึงการสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า

          อย่างไรก็ตาม กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ตระหนักถึงความสำคัญของการส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจ ของไทยให้สามารถแข่งขันได้ทั้งในระดับภูมิภาคอาเซียนและในระดับสากล จึงได้จัดโครงการ “ลดต้นทุนโลจิสติกส์สำหรับผู้ส่งออก” อย่างต่อเนื่องตั้งปี 2552 และในปีนี้ได้จัดเป็นครั้งที่ 7 เพื่อให้ผู้ประกอบการธุรกิจของไทย ซึ่งได้แก่ ผู้ประกอบการค้าระหว่างประเทศ และผู้ให้บริการโลจิสติกส์ ที่เข้าร่วมโครงการได้นำความรู้ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้ในการบริหารจัดการโลจิสติกส์ในองค์กรได้สามารถสร้างต้นแบบ ตลอดจนวิเคราะห์ธุรกิจ พร้อมวางแผนการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และนำไปสู่การแก้ไขปัญหาได้อย่างถูกต้อง มีผลประกอบการที่ดีขึ้นส่งผลให้บริษัทเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคตและจากการติดตามหลังจัดทำโครงการนี้เกิดขึ้นมาตลอดระยะเวลากว่า 6 ปี บริษัทที่เข้าร่วมกิจกรรมกับกรมฯ 147 บริษัทสามารถลดต้นทุนด้านขนส่งต่างๆได้มากกว่า 1,100 ล้านบาท ซึ่งเป็นการสร้างผลกำไรให้กับบริษัทนั้นๆได้มากพอสมควร และรัฐบาลมีเป้าหมายลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ทั้งระบบของประเทศไว้ในปี 2560 จากขณะนี้อยู่ที่ร้อยละ 14 ของจีดีพีเหลือร้อยละ 12 ของจีดีพี โดยเชื่อว่าหากทุกฝ่ายรวมมือกันอย่างจริงจังน่าจะทำให้การลดต้นทุนด้านนี้เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้

          นายนพพร เทพสิทธา ประธานสภาผู้ขนส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย หรือ สรท.กล่าวว่า การบริหารจัดการโลจิสติกส์อย่างไรให้ได้กำไรนั้น จากประสบการ์ณอยู่ในธุรกิจด้านโลจิสติกส์มา 30 ปี สิ่งที่ผู้ประกอบการต้องดูแล 3 เรื่องที่สำคัญ คือ บริหาร,จัดการ ด้านโลจิสติกส์และด้านผลกำไร หากบริหารใน 3 นี้ได้และสอดคล้องกันได้ เชื่อว่าจะรับความเปลี่ยนการค้าโลกและการค้าภายในประเทศได้อย่างดีและมั่นคง แต่สิ่งทึ่น่าห่วงคือภาคธุรกิจไทยจะต้องปรับตัวรองรับการขยายการค้าและการลงทุนภายใต้กรอบต่างๆเป็นการเร่งด่วน เพราะเชื่อว่าหลังจากปี 58 การค้าจากประเทศต่างๆ โดยเฉพาะจากจีนจะเข้ามายังกลุ่มอาเซียนมากขึ้น หากยังไม่ปรับตัวการ ไทยจะแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้านลำบากมาก.

ที่มา : สำนักข่าวไทย