กรมบัญชีกลางมั่นใจเบิกจ่ายงบปี′58 เข้าเป้า ไม่ต้องกันเงินเบิกเหลื่อมปี

ข่าวสารด้านบัญชีและภาษีอากร

ข่าวสารด้านบัญชีและภาษีอากร

 

          นายมนัส แจ่มเวหา อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ปีงบประมาณ 2558 ที่จะสิ้นสุดในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ หากเป็นไปตามที่คาด ปีนี้อาจจะไม่มีเงินกันไว้เบิกเหลื่อมปี จากปกติที่จะมีเงินกันปีละกว่า 3 แสนล้านบาท ทั้งนี้ เนื่องจากการก่อหนี้ผูกพันงบลงทุนปีนี้ทำได้ดีขึ้นมาก ล่าสุด ถึงต้นเดือน พ.ค. มีการทำสัญญาก่อหนี้แล้ว 46.5% สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วที่ก่อหนี้ได้แค่กว่า 20% ขณะเดียวกันรัฐบาลยังมีมาตรการให้เร่งก่อหนี้ โดยหากถึงสิ้นเดือน ก.ค.นี้ ยังไม่สามารถก่อหนี้ได้ ก็จะพับโครงการดังกล่าวไป

 

         "ปีนี้ทำได้ดีมาก ทำให้คิดว่าถึงสิ้นปีงบประมาณ จึงค่อนข้างมั่นใจว่าจะไม่มีเงินกันไว้เบิกเหลื่อมปีช่วงไตรมาสแรกปีงบประมาณ 2559 (ต.ค.-ธ.ค.2558) ดังนั้น โครงการที่ใช้งบลงทุนปีงบประมาณ 2559 จึงต้องเป็นโครงการที่มีความพร้อม มีแผนงานรองรับ ซึ่งกรมบัญชีกลางจะออกหนังสือเวียนถึงส่วนราชการอีกครั้งว่า ให้เตรียมการจัดซื้อจัดจ้างให้เรียบร้อยก่อน จากนั้นเมื่อได้รับอนุมัติงบประมาณก็สามารถเซ็นสัญญาได้ทันที" นายมนัสกล่าว

 

          ส่วนการเบิกจ่ายงบประมาณล่าสุด นายมนัส กล่าวว่า การเบิกจ่ายงบประมาณภาพรวม ณ วันที่ 29 เม.ย. 2558 เบิกจ่ายแล้ว 1,666,000 ล้านบาท คิดเป็น 64.7% ส่วนงบลงทุนเบิกจ่ายได้ 187,384 ล้านบาท คิดเป็น 41.7% และทั้งปีน่าจะเบิกจ่ายงบลงทุนได้ใกล้เคียง 87% ตามเป้าหมาย

 

          นายมนัส กล่าวด้วยว่า เมื่อวันที่ 3 มิ.ย. นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธาน ได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการความร่วมมือป้องกันการทุจริต ซึ่งได้ขยายผลการจัดทำข้อตกลงคุณธรรมให้ครอบคลุมทุกกระทรวง โดยกระทรวงต่าง ๆ ได้คัดเลือกและส่งโครงการเข้ามาทั้งหมด 45 โครงการ หลังจากก่อนหน้านี้กรมบัญชีกลางได้ออกหนังสือให้แต่ละกระทรวงคัดเลือกโครงการเพื่อจัดทำข้อตกลงคุณธรรมเพิ่มเติมกระทรวงละ 1 โครงการ ตามมติคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (คตช.) ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เมื่อวันที่ 21 เม.ย.

 

          "ที่ประชุมได้พิจารณาและอนุมัติจำนวน 24 โครงการ แต่ทั้งนี้ เนื่องจากบางกระทรวงโครงการจัดซื้อจัดจ้างที่จะจัดทำข้อตกลงคุณธรรมที่มีมูลค่าสูงมีจำนวนหลายโครงการ ซึ่งอาจคัดเลือกได้มากกว่า 1 โครงการได้หากบางกระทรวงมีโครงการจัดซื้อจัดจ้างที่มีความสำคัญ" นายมนัสกล่าว

 

          พร้อมกันนี้ ได้ยกตัวอย่างโครงการที่ได้รับการคัดเลือก เช่น โครงการก่อสร้างอาคารหอประชุม ทบ. และอาคาร สก.ทบ. วงเงิน 2,425 ล้านบาท ของกองทัพบก กระทรวงกลาโหม โครงการดำเนินการเปลี่ยนสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดินโครงการนนทรี ของการไฟฟ้านครหลวง กระทรวงมหาดไทย วงเงิน 3,235 ล้านบาท โครงการเพิ่มประสิทธิภาพระบบระบายน้ำชลหารพิจิตร จังหวัดสมุทรปราการ ของกรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์การเกษตร วงเงิน 890 ล้านบาท และโครงการจัดซื้อปืนลูกซองพร้อมอุปกรณ์ จำนวน 1,970 กระบอก วงเงิน 82.74 ล้านบาท ของกรมอุทยาแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

 

          นอกจากนี้ ภาคเอกชนได้ทาบทามผู้เชี่ยวชาญ มีประสบการณ์และมีจิตอาสามาเป็นผู้สังเกตการณ์โครงการจัดซื้อจัดจ้างที่จัดทำข้อตกลงคุณธรรม เพื่อช่วยสร้างความเชื่อมันและความโปร่งใส โดยนำเสนอรายชื่อผู้สังเกตการณ์จำนวน 76 คน ซึ่งที่ประชุมมอบให้กรมบัญชีกลางพิจารณากลั่นกรองรายชื่อผู้สังเกตการณ์อีกชั้นหนึ่ง ก่อนที่จะจัดให้มีการฝึกอบรมผู้สังเกตการณ์ตามหลักสูตรที่กรมบัญชีกลางและสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทยร่วมกันจัดทำขึ้น

 

ที่มา : ประชาชาติธุรกิจออนไลน์