น.ส.ผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยถึงยอดการส่งงบการเงินปี 2558 หลังสิ้นสุดเมื่อวันที่ 2 มิถุนายนที่ผ่านมา พบว่า มีนิติบุคคลนำส่งงบการเงินแล้วร้อยละ 81 หรือคิดเป็นจำนวน 441,661 ราย ทำให้ยังเหลือนิติบุคคลที่ยังไม่นำส่งงบการเงินอีกร้อยละ 19 หรือ 103,695 ราย จึงขอให้นิติบุคคลที่ยังไม่ได้นำส่งงบการเงินให้รีบดำเนินการโดยเร็ว เนื่องจากจะมีโทษปรับตามระยะเวลาที่นำส่งงบการเงินล่าช้า โดยประเภทห้างหุ้นส่วนจดทะเบียนและบริษัทจำกัด มีอัตราปรับสูงสุด 12,000 บาท หากส่งล่าช้าเกิน 4 เดือน ส่วนนิติบุคคลต่างประเทศและบริษัทมหาชนจำกัด จะมีอัตราปรับสูงสุด 72,000 บาท หากส่งล่าช้าเกิน 4 เดือน และกิจการร่วมค้า จะมีอัตราปรับสูงสุด 36,000 บาท หากส่งล่าช้าเกิน 4 เดือน

          ส่วนยอดการจดทะเบียนธุรกิจเดือนพฤษภาคม 2558 มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัททั่วประเทศ 4,523 ราย รวมมูลค่าทุนจดทะเบียนจัดตั้งใหม่ 17,532 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 1 หรือลดลง 60 ราย เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการจดทะเบียนธุรกิจค้าสลากเดือนนี้มี เพียง 10 ราย หรือลดลง 59 ราย เมื่อเทียบกับเดือนเมษายนที่ผ่านมา ประกอบกับเดือนพฤษภาคม 2558 มีวันหยุดราชการมาก ทำให้จำนวนวันทำการน้อยกว่าเดือนอื่น โดยประเภทธุรกิจที่จดทะเบียนจัดตั้งสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจขายส่งเครื่องจักร ธุรกิจภัตตาคารและร้านอาหาร และธุรกิจผลิตไฟฟ้า ส่วนนิติบุคคลที่จดทะเบียนเลิกทั่วประเทศเดือนพฤษภาคม 2558 มี 977 ราย

          ทั้งนี้ จากรายงานของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือนเมษายน 2558 อยู่ที่ระดับ 45.2 ลดลงจากเดือนมีนาคม 2558 ที่ระดับ 52.4 ตามความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการทั้งด้านการผลิตและผลประกอบการที่ปรับตัวลดลง แต่ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจอีก 3 เดือนข้างหน้า มีค่าสูงขึ้นอยู่ที่ระดับ 54.4 แสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการยังมีความเชื่อมั่นต่อสภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทยระดับสูง อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจด้านต่าง ๆ ได้แก่การใช้จ่ายและการลงทุนของภาครัฐ ภาคครัวเรือนชะลอการบริโภค และการส่งออก ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อภาวะเศรษฐกิจของประเทศและส่งผลต่อการจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัทโดยรวม

          นอกจากนี้ เพื่อเตรียมพร้อมรองรับการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) เต็มรูปแบบ จึงเพิ่มทางเลือกการขอหนังสือรับรองให้ผู้ประกอบธุรกิจ โดยเปิดให้บริการออกหนังสือรับรองนิติบุคคลเป็นภาษาอังกฤษตั้งแต่วันที่ 16 มกราคมที่ผ่านมาจนถึงวันที่ 29 พฤษภาคม 2558 มีผู้มาใช้บริการทั้งสิ้น 968 คำขอ จำนวน 991 ฉบับ.

ที่มา : สำนักข่าวไทย