ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า วานนี้ (18 มิ.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น. ทีมงานของ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ได้แจ้งกับผู้สื่อข่าวว่า ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ได้ยกเลิกการนัดหมายพบปะกับผู้แทนบริษัทไชน่า เพาเวอร์ ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่ของจีน อย่างไรก็ตามตรวจสอบภายหลังพบว่า ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ได้ยกเลิกการใช้ห้องประชุมที่ตึกนารีสโมสร ซึ่งตามกำหนดการเดิมใช้เป็นห้องในการพบปะกับไชน่า เพาเวอร์ เพื่อไม่ให้ผู้สื่อข่าวทำข่าวการเข้าพบครั้งนี้ และให้ผู้แทนบริษัทไชน่า เพาเวอร์ เข้าพบถึงที่ห้องทำงานแทน โดยแจ้งผู้สื่อข่าวว่าได้ยกเลิกการเข้าพบครั้งนี้ไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม นายอลงกรณ์ พลบุตร สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เปิดเผยว่า ได้นำคณะผู้แทนบริษัทไชน่า เพาเวอร์ เข้าพบ ม.ร.ว.ปรีดิยาธรในครั้งนี้เอง หลังจากที่ผู้แทนบริษัทไชน่า เพาเวอร์ เข้าพบรองประธาน สปช.เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งในการเข้าพบครั้งนี้ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ได้เชิญชวนให้บริษัทไชน่า เพาเวอร์ มาลงทุนสร้างโรงงานผลิตโซล่าร์เซลล์ในประเทศไทย ซึ่งไทยต้องการส่งเสริมกิจการต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำด้านพลังงานทดแทน เพื่อลดการนำเข้าโซล่าร์เซลล์ หันมายืนบนขาของตัวเอง ซึ่งทางจีนผลิตโซล่าร์เซลล์ได้ถูกกว่าประเทศตะวันตก
ขณะที่ตัวแทนบริษัทไชน่า เพาเวอร์ ได้แจ้งว่า พร้อมจะเป็นหุ้นส่วนอนาคตในการปฏิรูปประเทศไทย และพร้อมที่จะร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจ การลงทุนในด้านพลังงาน โครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง การบริหารจัดการน้ำ และการร่วมลงทุนไทย-จีน ในประเทศอาเซียน รวมถึงต้องการเข้ามาร่วมโครงการที่ไทยกับพม่าได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) ว่าด้วยเรื่องพลังงาน โดยมีเรื่องความร่วมมือด้านพลังงานไฟฟ้าด้วย ที่ทางไชน่า เพาเวอร์ให้ความสนใจเป็นพิเศษ ซึ่งทาง ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ได้ฉายภาพอนาคตประเทศไทยให้ตัวแทนบริษัทไชน่า เพาเวอร์ ทราบว่า การขับเคลื่อนประเทศในช่วงนี้มุ่งเน้นการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการวางรากฐานสร้างความเข้มแข็งให้ประเทศ.
ที่มา : ไทยรัฐฉบับพิมพ์