นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง เปิดเผยภายหลังหารือกับกรมธนารักษ์ และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กรณีกระทรวงการคลังจะล้างหนี้ให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) วงเงิน 120,000 ล้านบาท โดยนำที่ดินบริเวณมักกะสันจำนวน 497 ไร่ มาพัฒนาเชิงพาณิชย์ ว่า กระทรวงการคลังจะใช้เวลาไม่เกิน 2-3 สัปดาห์ เพื่อตัดสินใจว่าจะดำเนินการอย่างไรกับที่ดินมักกะสัน ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งขณะนี้การประเมินทรัพย์สินของกระทรวงการคลังกับกระทรวงคมนาคมต่างกัน 10% อีกทั้งการวางแผนการใช้พื้นที่ ก็ไม่ค่อยตรงกันด้วย
“ที่ดินใหญ่ขนาด 497 ไร่ และมีสวนสาธารณะขนาด 180 ไร่ เราจะจัดการอย่างไร เช่น แบ่งเป็นพื้นที่เดียวกัน ทั้ง 180 ไร่ หรือแบ่งตามขนาดต่างๆให้ได้ครบ 180 ไร่ โดยพื้นที่เชิงพาณิชย์อยู่ด้านหน้าหรือด้านหลัง มีถนนผ่ากลางหรือไม่มีถนน ซึ่งสามารถออกแบบได้ แต่การออกแบบนั้นจะต้องสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับที่ดินมากที่สุด”
นายสมหมาย กล่าวว่า ส่วนระยะเวลาการส่งมอบที่ดินนั้น ถือว่าเป็นส่วนสำคัญ แต่ยังมีความเห็นแตกต่างกัน โดยเฉพาะพื้นที่เฟส 2 จำนวน 177 ไร่นั้น กระทรวงคมนาคมใช้เวลาในการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างและขนย้าย 5 ปี ขณะที่กระทรวงการคลังขอเวลา 3 ปี เพื่อจะให้พัฒนาที่ดินให้เร็วขึ้น อีกทั้งยังต้องพิจารณาถึงระยะเวลาการเช่าที่ดินมักกะสันจาก ร.ฟ.ท.ด้วย ซึ่งในเงื่อนไขการเช่า 30 ปีนั้น อาจไม่เพียงพอ แต่ต้องขอเพิ่มอีก 30 ปี รวมเป็น 60 ปีจะได้หรือไม่ แต่ในกรณีนี้ ก็มีการมองว่าระยะเวลาการเช่าใน 1 สัญญาคือ 30 ปีก็ยังสั้นอยู่ดี หากใช้กฎหมายของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) สามารถเช่าที่ดินได้ 50 ปี ฉะนั้นจะต้องพิจารณาว่ารูปแบบใดจะสร้างความเชื่อมั่นใจให้นักลงทุนได้มากที่สุด เพราะผู้เช่าก็ต้องการความมั่นคงในการลงทุนเช่นเดียวกัน
นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวว่า ที่ดินเฟส 2 จำนวน 177 ไร่ น่าจะเป็นหัวใจของโครงการนี้ เพราะทำเลดี หาก ร.ฟ.ท.รื้อถอนได้เร็ว กรมธนารักษ์ก็จะพัฒนาที่ดินได้เร็วขึ้น จะช่วยสร้างมูลค่าและเพิ่มรายได้แก่กรมธนารักษ์มากขึ้น ซึ่งกรมธนารักษ์อยากได้สัญญาเช่านานถึง 90 ปี เพื่อให้คุ้มค่ากับการล้างหนี้ 60,000 ล้านบาท.
ที่มา : ไทยรัฐฉบับพิมพ์