นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ โฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า เดือน พ.ค.ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศลดลง 18.3% อยู่ที่ 56,939 คัน เป็นการลดลง 23 เดือนติดต่อกันนับตั้งแต่เดือน ก.ค.2556 ประกอบกับยอดการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป ก็ยังลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 6.17% อยู่ที่ 88,937 คัน และลดลง 26.94% เป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือนนับตั้งแต่ต้นปี 2558

          สำหรับยอดขายรถยนต์ในประเทศที่ลดลงต่อเนื่อง เป็นผลจากกำลังซื้อในประเทศชะลอตัวจากปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำยังไม่ฟื้นตัว การลงทุนและเบิกจ่ายงบลงทุนภาครัฐยังไม่มากเพียงพอ โดยเฉพาะสถาบันการเงินยังมีความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ เพราะกังวลเรื่องตัวเลขหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูงกว่า 80% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) สะท้อนได้จากยอดปฏิเสธคำขอสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์สูงถึง 40-50% ในระยะ 2-3 เดือนที่ผ่านมา “ส.อ.ท.อยู่ระหว่างพิจารณาปัจจัยเสี่ยงที่จะส่งผลกระทบต่อยอดขายรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนภาครัฐที่ยังไม่เป็นไปตามคาด อีกทั้งปัญหาภัยแล้งยังซ้ำเติมกำลังซื้อในประเทศให้ชะลอตัวลง เพื่อประกอบการทบทวนตัวเลขคาดการณ์ยอดขายในประเทศปีนี้อีกครั้ง ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่ายอดขายรถยนต์ตลอดทั้งปีนี้อาจเหลือเพียง 700,000 คัน”

          นายสุรพงษ์กล่าวว่า สำหรับยอดส่งออกรถยนต์ที่ลดลงเมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา อาจเป็นเพราะผลพวงจากการเปลี่ยนรุ่นรถกระบะของรถยี่ห้อหนึ่ง ที่ไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนมานานกว่า 10 ปี จึงส่งผลให้การส่งออกรถกระบะรุ่นดังกล่าวลดลง แต่เชื่อว่าเดือน มิ.ย.จะมียอดคำสั่งซื้อรถกระบะรุ่นใหม่เข้ามา ทำให้ยอดการส่งออกรถยนต์ อาจเข้าสู่ภาวะปกติ และทำให้ยอดส่งออกรถยนต์ในภาพรวมปีนี้ของทุกค่ายรถยนต์อยู่ที่ 1.2 ล้านคัน.

ที่มา : ไทยรัฐฉบับพิมพ์