คลังเร่งรัด 14 หน่วยงานเบิกจ่ายงบลงทุน-แก้ปัญหาน้ำ

ข่าวสารด้านบัญชีและภาษีอากร

ข่าวสารด้านบัญชีและภาษีอากร

 

          นายสมหมาย  ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประชุมร่วมกับ 14 หน่วยงานภาครัฐเพื่อติดตามเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณปี  2558 รวมถึงงบเหลื่อมปี 2557 และเงินกู้พิเศษ รวมกันกว่า 4.7 แสนล้านบาท เพื่อต้องการผลักดันเม็ดเงินในโครงการต่างๆ รวมถึงโครงการบริหารจัดการน้ำให้คืบหน้าโดยเร็ว  ล่าสุด 9 เดือนที่ผ่านมาเบิกจ่ายได้ 3.5 แสนล้านบาทหรือ ร้อยละ73 สูงกว่าปีก่อน แต่มีบางหน่วยงานที่ไม่สามารถทำสัญญาเบิกจ่ายได้ทันวันที่ 31 ก.ค.นี้ ตามเส้นตายที่รัฐบาลกำหนดไว้ เบื้องต้นมีเม็ดเงินรวมกันประมาณร้อยละ 20 ซึ่งส่วนนี้นายกรัฐมนตรีจะขอคืน และคงไม่ต้องใช้มาตรา 44 เพียงแค่ตักเตือนโดยการขึ้นเงินเดือนให้น้อยหรือไม่ขึ้นเลยก็น่าจะเพียงพอแล้ว แต่หน่วยงานดังกล่าวก็สามารถยื่นอุทธรณ์เข้ามาได้หากมีเหตุผลอันสมควรแต่จะได้รับการผ่อนผันให้หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับครม.

 

          โดยในการประชุมครม.อังคารนี้จะรายงานผลการเบิกจ่ายงบประมาณทั้งส่วนที่ทำได้ดีและที่ยังล่าช้าและจะมีการติดตามอย่างใกล้ชิดใน 2 เดือนที่เหลือก่อนจะประเมินผลการใช้งบปี 2558 ใหม่อีกครั้งซึ่งหากจะให้ได้ตามเป้าหมายร้อยละ 93  จะต้องเบิกจ่ายงบให้มากขึ้นอีกร้อย  20  แม้ว่าภาพรวมปีนี้ยังไม่น่าเป็นห่วงจนเกินไปแต่อยากให้ทำได้ดีกว่านี้และดีขึ้นในปีถัดไปจึงขอให้เตรียมพร้อมสำหรับใช้งบปี 2559 ก่อนที่กฎหมายจะผ่านออกมาและให้ทำสัญญาจัดซื้อจัดจ้างทันทีเมื่องบประมาณมีผลบังคับใช้ สัปดาห์หน้าจะเรียกรัฐวิสาหกิจมาหารือเพื่อเร่งรัดให้ใช้จ่ายงบต่อไป

 

          สำหรับการรายงานผลการเบิกจ่ายรายกรมนั้นพบว่างบที่เกี่ยวข้องกับน้ำมีเม็ดเงินประมาณ  7  หมื่นล้านบาท  สามารถเบิกจ่ายได้แล้วร้อยละ 77ส่วนที่เหลือน่าจะเบิกจ่ายได้ทันปีนี้ โดยส่วนของกรมทรัพยากรนั้นได้รายงานว่างานยังเดินหน้าต่อเนื่องแต่ที่ไม่มีตัวเลขการเบิกจ่ายเพราะเอกชนยังไม่ได้เบิกเงินค่างวดเข้ามา ส่วนนี้จึงให้กรมบัญชีกลางและสำนักงบประมาณไปตรวจสอบความคืบหน้าโครงการอีกครั้ง ส่วนกรมชลประทานระบุว่าที่ล่าช้าเพราะมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบทั้งการทำโครงการแก้มลิงและอ่างเก็บน้ำ โดยมีเพียงกรมทรัพยากรน้ำบาดาลที่สามารถชุดบ่อบาดาลได้เร็วรับมือภัยแล้งได้ดีจึงได้รับจัดสรรงบไปเพิ่มเติม

 

          นอกจากนั้นพบว่ากรมส่งเสริมการเกษตรที่สามารถทำงานได้เร็วมีการอุดหนุนให้ตำบลละ 1 ล้านบาท จำนวน 3,500 ตำบลหรือ 3,500 ล้านบาทใช้ในการชุดสระเพื่อรับมือภัยแล้ง ขณะที่กรมทางหลวงเบิกจ่ายไปได้แล้วร้อยละ 70 ส่วนกรมทางหลวงชนบทเบิกจ่ายได้เพียงร้อยละ 40 แต่ชี้แจงว่ามีการทำสัญญาก่อหนี้ผูกพันไว้แล้วร้อยละ 80โดยเป็นงบย่อยๆที่ให้ท้องถิ่นหลังจากนี้น่าจะเดินหน้าได้เร็วขึ้น

 

          นายสมหมายกล่าวถึงการช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบปัญหาภัยแล้งว่าวันที่ 13 ก.ค.นี้ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.)จะเสนอที่ประชุมคณะกรรมการธนาคารเพื่อขออนุมัติโครงการช่วยเหลือด้านสินเชื่อให้เกษตรกรวงเงิน 6 หมื่นล้านบาท โดยแบ่งเป็นเงินกู้ระยะสั้นเพื่อปรับเปลี่ยนการผลิตจากข้าวไปเป็นพืชชนิดอื่นชั่วคราววงเงิน 3 หมื่นล้านบาท  ปลอดดอกเบี้ย 3 เดือนแรก ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยเหลือเพียงร้อยละ 4 ต่อปี ส่วนวงเงินต่อรายธ.ก.ส.จะพิจารณาตามความเหมาะสม  ซึ่งส่วนหนี้จะเป็นการปลูกพืชระยะสั้น 1 ปี ส่วนอีก 3 หมื่นล้านบาท คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ  7 ตามปกติ โดยเป็นวงเงินสนับสนุนให้มีการปรับเปลี่ยนให้ปลูกพืชชนิดอื่นในระยะยาว 3 ปี เพื่อลดพื้นที่การปลูกข้าวลงตามเป้าหมายของรัฐบาล.

 

ที่มา : สำนักข่าวไทย