คนที่ทำงานบัญชีทุกท่านต้องปรับตัวต่อยุคที่เปลี่ยนแปลง ศึกษาและนำเทคโนโลยีมาปรับใช้กับการทำงาน มิเช่นนั้นเทคโนโลยีจะมีบทบาทแทนเราในทุกสายงาน ...หากชะล่าใจไม่รีบปรับตัวอาจจะถูกแย่งงานไปทำได้
Blockchain ถือว่าเป็นหนึ่งในเทรนด์ที่มาแรงที่สุดสำหรับยุคดิจิทัล ที่สำคัญเจ้าบล็อกเชนนี่แหละที่ให้นักบัญชีวิตกกังกลอยู่ไม่น้อย
เนื่องด้วยปัจจุบันเทคโนโลยีก้าวหน้าไปไกลจนเราต้องตามให้ทัน โดยเทคโนโลยีบล็อกเชนจะเปรียบเสมือนการทำธุรกรรมโดยไม่ต้องผ่านบุคคลที่สาม หรือไม่ต้องผ่านคนกลาง พูดง่าย ๆ ก็คือไม่ต้องผ่านธนาคารหรือสถาบันการเงินนั้นเองค่ะ
ด้วยความไม่ผ่านตัวกลางนี่แหละ ทำให้ส่งผลต่อธุรกิจธนาคารบางส่วนอยู่บ้างแต่ด้วยหลายธนาคารเริ่มปรับเปลี่ยนกลยุทธ์เพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมลูกค้าที่มีความต้องการหลากหลายมากขึ้น ด้วยการนำบล็อกเชนเข้ามามีส่วนในการปรับปรุงรูปแบบหรือโมเดลธุรกิจใหม่เพื่อตอบโจทย์การทำธุรกรรมการเงินได้สะดวกและรวดเร็วมากขึ้น
Blockchain เกี่ยวข้องยังไงกับนักบัญชี?
เนื่องจากเจ้าเทคโนโลยีตัวนี้ที่ทำทุกอย่างบนโลกออนไลน์ได้สะดวก การแชร์ข้อมูลหรือระบบการทำงานธุรกรรมต่าง ๆ จะอยู่ในรูปแบบดิจิทัล ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อนักบัญชีในอนาคตเหมือนโครงสร้างพื้นฐานด้านบริการทางการเงินหลัก ๆ คือ
• รายการทางบัญชีต่าง ๆ จะถูกบันทึกพร้อมกันระหว่างคู่ค้าทั้งสองฝ่ายสามารถแชร์ข้อมูลบัญชีกันแบบเป็นห่วงโซ่ไม่ต้องผ่านนายหน้าคนกลาง
• ได้รับความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัย ไม่สามารถแก้ไขข้อมูลย้อนหลังได้ จึงตรวจสอบย้อนกลับรวมถึงปลอมแปลงยาก มีการยืนยันบุคคลและมีความถูกต้องสูง
• ลดข้อผิดพลาด ข้อมูลทั้งหมายจะถูกจัดเก็บใน “smart contracts” (สัญญาอัจฉริยะ คือ เงื่อนไขหรือข้อตกลงของสัญญาต่าง ๆ ที่ถูกจัดเก็บไว้ในรูปแบบ Code คอมพิวเตอร์ ซึ่ง Code นี้จะถูกเก็บไว้ในเครือข่ายของ Blockchain อีกที)
• ลดต้นทุน ประหยัดต้นทุนค่าแรงหรือค่าใช้จ่ายด้านอื่น ๆ มากกว่าระบบบัญชีแบบเดิม
• ที่สำคัญลดความเสี่ยงด้านข้อมูลการบัญชีที่รั่วไหล ลดปัญหาการเกิดความทุจริตจากบุคคล เพราะข้อมูลจะเกิดตามจริงไม่เปลี่ยนแปลงเอง ถ้าเกิดการเปลี่ยนแปลงต้องทำสำเนาเหมือนกัน พร้อมแยกประเภทบัญชีในเวลาเดียวกัน
• ลดเวลา อีกหนึ่งที่น่าสนใจที่นักบัญชีควรรู้คือ ความสามารถในการลดเวลาการตรวจสอบ ด้วยการใช้ smart contracts ที่มีฟังก์ชันตรวจสอบอัตโนมัติ จะช่วยลดเวลาที่มานั่งดูบัญชีย้อนหลังทีละอันได้ ผู้สอบบัญชีต้องตรวจสอบแค่ตรวจดูย้อนจาก blockchain ทำให้การตรวจสอบง่ายและรวดเร็ว
ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนนึงที่มีผลโดยตรงกับนักบัญชี ที่ต้องปรับตัวให้เข้ากับเทคโนโลยีที่ก้าวกระโดด เพื่อนำมาปรับใช้ในการทำงานที่สะดวกและตอบโจทย์ลูกค้าที่ใช้บริการด้านการเงินมากขึ้น อีกทั้งปัจจุบันสามารถผสมผสานเข้ากับระบบบัญชีปกติได้ เริ่มจากการรักษาความปลอดภัยของการบันทึก ให้ตามข้อมูลเเละตรวจสอบได้อย่างถูกต้อง ซึ่งจะนำไปสู่อนาคตที่กลายเป็นการตรวจสอบบัญชีโดยอัตโนมัติทั้งหมด! แล้วนักบัญชีจะพัฒนาไปทำหน้าที่สำคัญกว่าระบบอัตโนมัตินี้อย่างไร เป็นคำถามท้าทายที่นักบัญชีต้องตระเตรียมคำตอบไว้
ที่สำคัญนักบัญชีเองต้องหมั่นศึกษาหาความรู้ใหม่ ๆ มาพัฒนาตัวเองให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง และพร้อมปรับตัวให้ทันด้วยค่ะ
บทความโดย : นางสาวณัฐชา คำภา ประจำสำนักคณะกรรมการบริหาร บริษัท ธรรมนิติการบัญชีและภาษีอากร จำกัด