หลายท่านที่ทำงานในบริษัทเอกชนหรือมนุษย์เงินเดือนอย่างเรา เคยสงสัยไหมหลังเกษียณแล้ว ผู้สูงอายุจะได้อะไรจากประกันสังคมบ้าง ไปติดตามเรื่องของสิทธิประโยชน์กองทุนกรณีชราภาพกันเลยค่ะ
สำหรับผู้สูงอายุที่เคยเป็นผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม จะมีสิทธิได้รับสิทธิประโยชน์จาก
“กองทุนกรณีชราภาพ” ซึ่งกรณีของเงินกองทุนชราภาพนั้นเป็นส่วนหนึ่งของ เงินประกันสังคม ที่เราพึ่งได้โดยมี หลักเกณฑ์และเงื่อนไข แบ่งออกเป็น 2 ประเด็น ดังนี้
1.เงื่อนไขการเกิดสิทธิกรณีบำนาญชราภาพ
● จ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 180 เดือน ไม่ว่าระยะเวลา 180 เดือนจะติดต่อกันหรือไม่ก็ตาม
● มีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ และความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลง
ประโยชน์ทดแทนกรณีบำนาญชราภาพ
● กรณีจ่ายเงินสมทบมาแล้ว ไม่น้อยกว่า 180 เดือน มีสิทธิได้รับเงินบำนาญชราภาพเป็นรายเดือนใน อัตราร้อยละ 20 ของค่าจ้างเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้ายที่ใช้เป็นฐานในการคำนวณเงินสมทบก่อนความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลง
● กรณีที่มีการจ่ายเงินสมทบ เกิน 180 เดือน ให้ปรับเพิ่มอัตราบำนาญชราภาพตามข้อ 1 ขึ้นอีกในอัตราร้อยละ 1.5 ต่อระยะเวลาการจ่ายเงินสมทบทุก 12 เดือน สำหรับระยะเวลาที่จ่ายเงินสมทบเกินกว่า 180 เดือน
2.เงื่อนไขการเกิดสิทธิกรณีบำเหน็จชราภาพ
● จ่ายเงินสมทบไม่ครบ 180 เดือน
● ความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลง และ มีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ หรือเป็นผู้ทุพพลภาพ หรือถึงแก่ความตาย
ประโยชน์ทดแทนกรณีบำเหน็จชราภาพ
● กรณีที่มีการจ่าย เงินสมทบ ต่ำกว่า 12 เดือน ให้จ่ายเงินบำเหน็จชราภาพ มีจำนวนเท่ากับจำนวนเงินสมทบที่ผู้ประกันตนจ่าย เพื่อการจ่ายประโยชน์ทดแทนในกรณีชราภาพ กรณีที่มีการจ่ายเงินสมทบตั้งแต่ 12 เดือนขึ้นไป ให้จ่ายเงินบำเหน็จชราภาพ มีจำนวนเท่ากับจำนวนเงินสมทบที่ผู้ประกันตนและนายจ้างจ่ายเงินสมทบ เพื่อการจ่ายประโยชน์ทดแทนในกรณีชราภาพ พร้อมผลประโยชน์ตอบแทน ตามที่สำนักงานประกันสังคมประกาศกำหนด
● กรณีผู้รับเงิน บำนาญชราภาพถึงแก่ความตายภายใน 60 เดือน นับแต่เดือนที่มีสิทธิได้รับเงินบำนาญชราภาพให้จ่ายเงินบำเหน็จชราภาพจำนวน 10 เท่าของเงินบำนาญชราภาพรายเดือนที่ได้รับคราวสุดท้ายก่อนถึงแก่ความตาย
กำหนดเวลาการยื่นคำขอรับประโยชน์ทดแทน
ผู้ประกันตนหรือผู้มีสิทธิจะต้องยื่นคำขอรับประโยชน์ทดแทนภายใน 1 ปี นับแต่วันที่มีสิทธิขอรับประโยชน์ทดแทน
อย่างไรก็ตาม ประกันสังคม ยังเปิดโอกาสผู้สูงวัยที่มี อายุระหว่าง 60 – 65 ปี ที่ความเป็นผู้ประกันตน สิ้นสุดลงแล้ว สามารถสมัครขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตนได้ใหม่ ตามมาตรา 40 ดยให้สิทธิความคุ้มครองและสิทธิประโยชน์ 3 ทางเลือก คือ
ทางเลือกที่ 1 จ่ายเงินสมทบ 70 บาท/เดือน
สิทธิประโยชน์พื้นฐานคุ้มครอง 3 กรณี คือ กรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย กรณีทุพพลภาพ กรณีตาย
ทางเลือกที่ 2 จ่ายเงินสมทบ 100 บาท/เดือน
สิทธิประโยชน์พื้นฐานคุ้มครอง 4 กรณี คือ กรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย กรณีทุพพลภาพ กรณีตาย และกรณีชราภาพ
ทางเลือกที่ 3 จ่ายเงินสมทบ 300 บาท/เดือน
สิทธิประโยชน์พื้นฐานคุ้มครอง 5 กรณี คือ กรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย กรณีทุพพลภาพ กรณีตาย กรณีชราภาพ และกรณีสงเคราะห์บุตร
อ้างอิง : หลักเกณฑ์และเงื่อนไข กรณีชราภาพ สำนักงานประกันสังคม
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2563/A/046/T_0049.PDF
บทความโดย : คุณอรนุช เมฆสุวรรณ หัวหน้าแผนกบริการเงินเดือน 12