นายไพศาล พืชมงคล เปิดเผยว่านายกรัฐมนตรีมีอำนาจตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีในการแต่งตั้งทูตการค้าคนเดียวหรือหลายคนให้มีฐานะเท่ากับรัฐมนตรี เพื่อเดินทางไปเจรจาทำความตกลงการค้ากับต่างประเทศ เพื่อกระตุ้นการส่งออกและเร่งขยายการส่งออกทุกชนิดของประเทศให้ทันท่วงที เพื่อเตรียมรับมือกับวิกฤตทางเศรษฐกิจของโลก โดยนายกรัฐมนตรีเลือกเฟ้นจากภาคเอกชนที่มีศักยภาพสูงในการเจรจาการค้าและทำการค้ากับต่างประเทศ เพื่อให้การทำงานหวังผล และบรรลุเป้าหมายตามที่รัฐบาลต้องการ
นายไพศาล พืชมงคล กล่าวว่าปัจจุบันแม้มีทูตพาณิชย์อยู่ในบางประเทศ แต่ก็เป็นข้าราชการประจำที่ไม่เคยมีประสบการณ์ในเรื่องการค้าขายระหว่างประเทศ และไม่มีเครือข่ายหรือรู้จักผู้คนในต่างประเทศ จึงไม่รู้ว่าจะไปติดต่อค้าขายอะไรกับใคร จึงเป็นต้นเหตุให้การส่งออกและการค้าของประเทศไม่คืบหน้า ซึ่งข้อเท็จจริงที่ผ่านมามีความชัดเจนโดยปราศจากข้อสงสัยใดๆอีกแล้ว และมีระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีที่ให้อำนาจนายกรัฐมนตรีแต่งตั้งทูตการค้าได้ มีศักดิ์และศรีเทียบเท่ารัฐมนตรี ดังนั้นถ้าหากนายกรัฐมนตรีจะได้เฟ้นเลือกอัศวินทางการค้าระหว่างประเทศสัก 15 คน แล้วตั้งเป็นทูตการค้า แบ่งเป็น 5 กลุ่มภูมิภาค ๆ ละ 3 คน เพื่อไปทำหน้าที่เจรจาการค้าโดยให้กระทรวงพาณิชย์สนับสนุนในการทำงานก็คงจะได้ผลอย่างรวดเร็ว แต่ที่สำคัญคือต้องไม่ตั้งเอาข้าราชการเป็นทูตการค้า หรือตั้งคนที่ไม่เคยมีประสบการณ์ในเรื่องนี้ก็จะเสียเวลาเปล่า.