นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก (เอสเอ็มอี) คิดเป็นร้อยละ 95 ของธุรกิจทั้งหมด และมีการจ้างงานกว่าร้อยละ 50 ของธุรกิจทั้งหมด เอสเอ็มอีจึงมีความสำคัญต่อการสร้างงาน สร้างรายได้ และเป็นพื้นฐานในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ เพื่อเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขันของประเทศ จึงต้องส่งเสริมให้เอสเอ็มอีและธุรกิจเกิดใหม่ โดยเฉพาะธุรกิจบนฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เข้าถึงแหล่งทุน สะดวกรวดเร็ว ด้วยต้นทุนที่ต่ำ เพื่อให้ธุรกิจเหล่านี้เติบโตเข้มแข็งต่อไป
นายวรพล กล่าวว่า Crowdfunding เป็นวิธีการหนึ่งที่ทำให้ให้ธุรกิจเหล่านี้เข้าถึงแหล่งทุน โดยผ่านการระดมทุนจากคนจำนวนมาก แต่ละคนลงทุนด้วยเงินจำนวนน้อยผ่านตัวกลางบนระบบอินเทอร์เน็ต ที่เรียกว่า funding portal ในปี 2557 ทั่วโลกมีการระดมทุนด้วยวิธีนี้รวมมูลค่าสูงถึงประมาณ 6,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ก.ล.ต.จะกำกับดูแลการระดมทุนผ่าน Crowdfunding ลักษณะของการเสนอขายหุ้นแก่ประชาชน (equity-based) ซึ่งเมื่อเร็วๆ นี้คณะกรรมการกำกับตลาดทุนได้มีมติเห็นชอบหลักการกำกับดูแล equity-based crowdfunding แล้ว โดยมีหลักการสำคัญ คือ ผู้ระดมทุนเป็นบริษัทมหาชนจำกัด หรือเป็นบริษัทจำกัด เสนอขายหุ้นผ่าน funding portal ที่ ก.ล.ต.ให้ความเห็นชอบ และมีการเปิดเผยข้อมูลตามที่ funding portal พิจารณา โดย funding portal เป็นผู้คัดกรองและเผยแพร่ข้อมูลของกิจการที่ต้องการระดมทุนและดูแลเงินค่าจองซื้อหุ้น ขณะที่ผู้สนใจลงทุนจะต้องสมัครเป็นสมาชิกของ funding portal ซึ่งจะเข้าดูข้อมูลการเสนอขายหุ้นได้ รวมทั้งต้องทำแบบทดสอบความเข้าใจเกี่ยวกับความเสี่ยงให้ผ่านก่อน จึงจะลงทุนได้ โดยเปิดให้ผู้ลงทุนรายบุคคลซื้อหุ้นไม่เกิน 50,000 บาทต่อ 1 บริษัท และไม่เกิน 500,000 บาทในรอบ 12 เดือน รวมทั้งสามารถยกเลิกการจองซื้อได้ตลอดระยะเวลา ยกเว้นช่วงระยะเวลาเสนอขายเหลือน้อยกว่า 48 ชั่วโมง
ด้าน น.ส.ผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กล่าวว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้ามีภารกิจในการส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจของไทยให้มีขีดความสามารถในการแข่งขัน สร้างความเติบโตทางเศรษฐกิจให้แก่ประเทศ ปัจจุบันมีนิติบุคคลที่จดทะเบียนและคงอยู่ 600,000ราย ซึ่งธุรกิจที่จะระดมทุน Crowdfunding จะต้องมีตัวตนชัดเจน จดทะเบียนถูกต้อง มีระบบการบริหารจัดการที่ดี จัดทำข้อมูลทางการเงินถูกต้อง และสามารถตรวจสอบได้ ซึ่งจะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือทำให้ผู้ลงทุนมองเห็นโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนและคืนทุน กรมพัฒนาธุรกิจการค้ายินดีอย่างยิ่งที่จะดำเนินการร่วมกับ ก.ล.ต. ในการส่งเสริมพัฒนาธุรกิจไทยให้มีขีดความสามารถในการแข่งขันและเติบโตพร้อมก้าวสู่เวทีการค้าในทุกระดับ”อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้ากล่าว.
ที่มา : สำนักข่าวไทย