น.ส.ผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่กรมฯได้มีการตรวจสอบนิติบุคคลที่มีทุนจดทะเบียนสูงผิดปกติกว่า 100 ราย เพราะไม่มีหลักฐานแสดงชัดเจนว่ามีเงินทุนเข้าบริษัทจริง จึงเกรงว่าบางรายอาจเปิดกิจการที่เข้าข่ายหลอกลวงประชาชนหรือในลักษณะแชร์ลูกโซ่ เบื้องต้นได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เชิญมาพบ และขอให้ดำเนินการในเรื่องเงินทุนจดทะเบียนให้ถูกต้องตามที่ได้ยื่นขอจดทะเบียนไว้ ถ้าไม่ดำเนินการ ก็จะใส่ไว้ในหมายเหตุในงบการเงินว่าเป็นบริษัทที่ไม่มีทุนจดทะเบียนจริง และเตือนผู้ที่ทำธุรกิจร่วมต้องระวังในการทำธุรกิจ เนื่องจากไม่มีความน่าเชื่อถือ ซึ่งขั้นตอนต่อไป ก็จะพิจารณายกเลิก โดยกำลังดูข้อกฎหมายอยู่
“จะใส่ไว้ในงบการเงินเลยว่าบริษัทนี้ ไม่น่าเชื่อถือ ดังนั้น ใครที่คิดจะทำธุรกิจด้วย ต้องระวัง แล้วจะใส่ไว้ในแอปพลิเคชั่นดีบีดี อี-เซอร์วิส ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ด้วย”
น.ส.ผ่องพรรณ กล่าวว่า ขณะนี้ยังพบว่า ที่ผ่านมา มีบางบริษัทยื่นขอจดทะเบียนโดยมีทุนจัดตั้งสูงถึง 900,000 ล้านบาท ซึ่งเบื้องต้นกรมฯ ได้ชะลอการจดทะเบียนเอาไว้ก่อน และเรียกหลักฐานดู ซึ่งทางผู้ยื่นจดก็ไม่ได้ยื่นหลักฐานเข้ามา และล่าสุดกรมฯ ได้ออกประกาศเรื่องทุนจดทะเบียนเกิน 5 ล้านบาท ก็ได้แจ้งให้ยืนยันการจดทะเบียน ทางผู้จดก็ไม่มาจด ดังนั้นได้ขอยกเลิกการจดทะเบียนไปแล้ว
ขณะเดียวกัน ยังได้ดำเนินการตรวจสอบบริษัทที่มีทุนจดทะเบียนเกิน 10,000 ล้านบาท โดยเรียกมาตรวจสอบหลักฐานการลงทุน และมีหลายกรณีที่ได้ส่งให้กรมสรรพากรช่วยตรวจสอบเพิ่มเติม และบางกรณีได้มีการส่งดำเนินคดีแล้วกรณีที่ดำเนินขั้นตอนไม่ถูกต้องตามกฎหมาย
น.ส.ผ่องพรรณ กล่าวว่า การจดทะเบียนธุรกิจเดือนมี.ค. 58 มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนบริษัทจัดตั้งใหม่ทั่วประเทศ จำนวน 5,698 ราย เพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบกับเดือนมี.ค. 57 โดยมีทุนจดทะเบียนจำนวน 16,092 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% ส่วนการจดทะเบียนเลิก 1,181 ราย เพิ่มขึ้น 42% มีทุนจดทะเบียน 3,115 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% ดังนั้นเมื่อรวม 3 เดือน มีผู้จดทะเบียนตั้งใหม่รวม 17,309 ราย เพิ่มขึ้น 12% มีทุนจดทะเบียนรวม 49,527 ล้านบาท ลดลง 22% และจดเลิกกิจการ 3 เดือนรวมกัน 3,674 ราย เพิ่มขึ้น 27% มีทุนจดทะเบียนรวม 8,950 ล้านบาท ลดลง 20%
“การจดจัดตั้งใหม่ เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แสดงให้เห็นว่าคนยังมั่นใจในการทำธุรกิจ แม้กรมฯ จะเพิ่มความเข้มงวดในการรับจดทะเบียน โดยกำหนดให้ผู้ที่มีทุนจดทะเบียนเกิน 5 ล้านบาท ต้องแสดงหลักฐานเงินทุนเข้าบริษัท ส่วนการยกเลิกกิจการ ที่เพิ่มขึ้น ไม่ได้หมายความว่าธุรกิจเจ๊ง แต่เป็นเพราะกรมฯ ได้เข้าไปจัดระเบียบ ทำให้มีการเลิกกิจการเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกิจการค้าสลาก ซึ่งยอด 3 เดือน มีเลิก 3,674 ราย แต่เป็นค้าสลากถึง 1,067 ราย หรือคิดเป็น 30% ของยอดที่จดเลิก”
ที่มา : เดลินิวส์