นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง เปิดเผยว่า ตนไม่ยอมรับข้อเสนอของสมาคมธนาคารไทยที่ขอให้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เพิ่มสัดส่วนแบกรับความเสียหายในโครงการปล่อยสินเชื่อให้ธุรกิจขนาดกลางและเล็ก (เอสเอ็มอี) เป็น 30% จากปัจจุบันอยู่ที่ 18% เพราะระดับปัจจุบันถือว่าสูง และรับความเสี่ยงได้ดีอยู่แล้ว หากจะรับเพิ่มเป็น 30% จะให้ได้เฉพาะกรณีพิเศษเท่านั้น เช่น ผู้ประกอบธุรกิจเกิดปัญหา หรือได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติ เป็นต้น “พวกที่มาขอเพิ่มสัดส่วนการแบกรับความเสียหายเป็น 30% คงไม่เข้าใจเรื่องการเงิน เพราะระดับที่แบกรับความเสี่ยงในปัจจุบันที่ 18% ถือว่า โอเวอร์ หรือสูงเพียงพอแล้ว และรัฐเองมีภาระที่ต้องรับผิดชอบอยู่มาก โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายด้านสังคม ฉะนั้น เราไม่แบกรับภาระภาคเอกชนขนาดนั้น”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอดังกล่าวข้างต้นของสมาคมธนาคารไทย เพราะปัจจุบันการปล่อยสินเชื่อให้เอสเอ็มอีผ่านโครงการดังกล่าว ไม่ได้เกิดความเสียหายถึง 18% และสัดส่วนการแบกรับความเสียหายในระดับดังกล่าวสูงแล้ว และสามารถรองรับความเสียหายที่จะเกิดขึ้นจากการปล่อยสินเชื่อได้ ซึ่ง สศค.ได้เสนอความเห็นให้ระดับนโยบายพิจารณาแล้วว่า สัดส่วน 18% เหมาะสมแล้ว เพราะปัจจุบัน ระดับหนี้เสียที่ปล่อยสินเชื่อในโครงการดังกล่าว ไม่ได้สูงเกินระดับการค้ำประกัน แต่หากเพิ่มสัดส่วนการค้ำประกันเป็น 30% เมื่อเกิดความเสียหายภาครัฐจะแบกรับภาระที่สูงมาก เช่น สินเชื่อ 100,000 ล้านบาท ต้องรับผิดชอบความเสียหายถึง 30,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังมีข้อเสนอเพิ่มเติมว่า หากธนาคารต้องการให้เพิ่มสัดส่วนการรับความเสียหายจน 30% เป็นไปได้หรือไม่ว่า ความเสียหายตั้งแต่ 19-30% ธนาคารพาณิชย์จะทำประกันความเสี่ยงเพิ่มเติมเอง.
ที่มา : ไทยรัฐฉบับพิมพ์