นายอิสระ อรดีดลเชษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ไตรมาส 3 ปี 2558 จะเป็นไตรมาสที่มีความท้าทายสำหรับตลาดหลักทรัพย์ไทย เนื่องจากได้รับปัจจัยเสี่ยงจากภายนอกประเทศจากกรณีที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประชุมวันที่ 28-29 กรกฎาคมนี้ ว่า เฟดจะส่งสัญญาณอย่างไร จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเดือนกันยายนนี้ ซึ่งจะส่งผลทำให้เงินทุนไหลออกจากตลาดเกิดใหม่เข้าสู่สหรัฐอเมริกาประกอบกับวิกฤติหนี้ในกรีซไม่น่าจะยุติระยะเวลาอันใกล้

          ดังนั้น ไตรมาส 3 ตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มจะปรับตัวลดลง แต่ไม่น่าจะปรับตัวลงแรง น่าจะต่ำสุดที่ 1,460 จุด แต่นักลงทุนต้องเตรียมรับความผันผวน แม้ว่าปัจจัยส่วนใหญ่จะถูกรับรู้ไปแล้วก็ตาม ซึ่งการปรับขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐเป็นสัญญาณที่แสดงว่าเศรษฐกิจฟื้นตัวดีขึ้น จึงมีผลทำให้ตลาดปรับตัวระยะสั้นแต่หลังจากนั้นไม่นานก็จะฟื้นตัวดีขึ้น โดยคาดว่าดัชนีปีนี้จะสูงสุดที่ 1,800 จุด หากดัชนีผ่าน 1,600 จุดได้ ดัชนีจะปรับขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยปัจจัยสนับสนุนมาจากการเติบโตทางเศรษฐกิจดีขึ้น ซึ่งคาดว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ประมาณร้อยละ 3 ปีนี้ และขยายตัวร้อยละ 3.3 ปี 2559 ซึ่งมาจากความคืบหน้าเรื่องการเบิกจ่ายงบประมาณและความคืบหน้าของการลงทุนภาครัฐ ซึ่งมีโอกาสสูงที่รัฐบาลจะเดินหน้าตามแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานบางส่วนให้สำเร็จภายในระยะเวลาการบริหารงานของรัฐบาลชุดนี้

          ส่วนผลกำไรของบริษัทจดทะเบียนปีนี้จะเติบโตถึงร้อยละ 27 จากฐานต่ำปี 2557 แต่จะชะลอตัวลงร้อยละ 15 ปีหน้า โดยคาดว่ากลุ่มกำไรที่เติบโตสูงสุด คือ ประกัน ขนส่ง ปิโตรเคมี ท่องเที่ยว พลังงาน และอาหาร เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีกำไรเติบโตต่ำปีก่อน ส่วนกลุ่มสื่อสารจะมีกำไรหดตัวลง สาเหตุจากต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจทีวีดิจิตอล ส่วนกำไรกลุ่มอสังหาริมทรัพย์จะอยู่ในระดับทรงตัว

          สำหรับหุ้นเด่นที่แนะนำไตรมาส 3 ปี 2558 เป็นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับปัจจัยจากเศรษฐกิจในประเทศที่ปรับตัวดีขึ้น เช่น บริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส , บริษัทอิออน ธนสินทรัพย์ (ประเทศไทย) , บริษัทซีพี ออลล์ , บริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ , ธนาคารกสิกรไทย และบริษัท ทรูคอร์ปอเรชั่น.

ที่มา : สำนักข่าวไทย