สภาวิชาชีพบัญชียันบริษัทประกันชีวิตแข็งแกร่ง แต่ต้องลงบัญชีให้ถูกต้องตามเกณฑ์ใหม่
นายประสัณห์ เชื้อพานิช นายกสภาวิชาชีพบัญชี เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทประกันชีวิตมีฐานะทางการเงิน ทั้งเงินกองทุน และการตั้งสำรองสูงมาก มีความแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม บริษัทประกันชีวิตจะต้องลงบัญชีให้ถูกต้องตามเกณฑ์ใหม่ตามหลักสากล โดยเฉพาะการทดสอบความเพียงพอของหนี้สินที่ให้ใช้มูลค่าหนี้สินปัจจุบัน แล้วไปดูว่าเงินกองทุนที่มีเงินสำรองที่ตั้งไว้ เพียงพอรองรับหนี้สินในอนาคตหรือไม่
นายประสัณห์ ยกตัวอย่างว่า เดิมบริษัทประกันสัญญาจะจ่ายผลตอบแทนให้ลูกค้า 4% เพราะสามารถหาผลตอบแทนได้ในระดับสูง แต่ปัจจุบันได้ผลตอบแทนเพียง 1.75% บริษัทจึงมีภาระตั้งสำรองเพิ่ม เพื่อให้เพียงพอกับหนี้สินที่จะต้องจ่ายคืนให้กับผู้เอาประกันภัย
"ถ้ายังใช้ราคาเดิมบันทึกจะทำให้หนี้สินน้อย กำไรเยอะ พอกำไรมากก็จะนำไปจ่ายปันผลให้ผู้ถือหุ้น แต่ลูกค้าหรือ ผู้ถือกรมธรรม์ไม่มีตัวเลขอะไรมารองรับในระยะยาว" นายประสัณห์ กล่าว
นอกจากนี้ สภาวิชาชีพบัญชีไม่มีความเห็นขัดแย้งกับแนวทางการคำนวณที่คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เสนอขอใช้มูลค่าหนี้สิน ณ ไตรมาสปัจจุบัน สัดส่วน 51% และใช้มูลค่าหนี้สินย้อนหลังไป 7 ไตรมาส บวกเพิ่มส่วนต่างของมูลค่าของหนี้สินไม่มีสภาพคล่องกับหนี้สินที่มีสภาพคล่อง 40% แต่ผู้ที่ตัดสินต้องเป็น คปภ.และธุรกิจประกันชีวิต เพราะเป็นผู้กำกับธุรกิจโดยตรง และธุรกิจประกันชีวิตเป็นผู้นำเงินของประชาชนไปบริหาร จึงต้องตัดสินใจเองว่ามีความเพียงพอต่อการชาระหนี้คืน หรือคืนเงินให้กับประชาชนตามสัญญาแน่นอน ส่วนสภาวิชาชีพบัญชีไม่มีหน้าที่ชี้ขาดว่าจะต้องใช้วิธีใด
ขณะที่เกณฑ์การทดสอบความเพียงพอของหนี้สินโดยใช้ราคาปัจจุบัน ได้หารือกับ คปภ. และธุรกิจประกันชีวิตตั้งแต่ปี 2554 เพื่อเตรียมตัวรับมือด้วยกัน
ที่มา: posttoday