พร้อมเพย์ (PromptPay) คือการทำธุรกรรมทางการเงินแบบใหม่ที่จะช่วยให้เราโอนเงิน และรับโอนเงินจากคนอื่นได้สะดวกขึ้น เพราะรู้เพียงแค่เบอร์โทรศัพท์มือถือหรือเลขประจำตัวประชาชนก็สามารถโอนเงินให้กันได้ทันที โดยไม่ต้องมีเลขที่บัญชีธนาคาร
อย่างไรก็ตาม หลายคนยังไม่ค่อยเข้าใจระบบพร้อมเพย์อยางชัดเจนเท่าไรนัก กระปุกดอทคอมจึงรวบรวมคำถาม-คำตอบที่คนข้องใจมาแจกแจงให้ได้ทราบเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องค่ะ
1. พร้อมเพย์ ดีกว่าการโอนเงินแบบเดิมอย่างไร ?
ตอบ : เป็นคำถามที่หลายคนสงสัยว่าถ้าโอนเงินผ่านพร้อมเพย์จะดีกว่าการโอนเงินแบบเดิมที่เคยใช้กันปกติอย่างไร คำตอบก็คือ
- สะดวก รวดเร็วขึ้น เพราะไม่ต้องถามชื่อและเลขที่บัญชีธนาคารของผู้รับโอนให้ยุ่งยาก รู้แค่เบอร์มือถือก็กดโอนเงินให้ได้แล้ว
- ปลอดภัย เพราะไม่ต้องพกเงินสดไปโอนเงินให้ที่ธนาคาร ไม่ต้องกังวลว่าเงินจะสูญหาย และยังสามารถตรวจสอบรายการโอนเงินได้ด้วย
- ค่าธรรมเนียมโอนเงินถูกลง โดยเฉพาะการโอนต่างธนาคาร หรือข้ามเขต ข้ามจังหวัด ต่อไปใครจะโอนเงินให้พ่อแม่ที่ต่างจังหวัด จ่ายค่าอาหารให้เพื่อน หรือโอนเงินค่าซื้อของให้บัญชีต่างธนาคาร ถ้าจำนวนไม่เกิน 5,000 บาท ก็ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมเลย แต่หากเกิน 5,000 บาท ก็ยังเสียค่าธรรมเนียมถูกลงกว่าแบบเดิม
- สามารถรับเงินจากภาครัฐเข้าบัญชีได้โดยตรง โดยผูกบัญชีไว้กับเลขบัตรประจำตัวประชาชน ไม่ว่าจะเป็นเงินคืนภาษี เงินบำนาญ หรือสวัสดิการต่าง ๆ
ตอบ : หากใครจะใช้พร้อมเพย์ก็ต้องลงทะเบียนกับธนาคารที่เราจะผูกบัญชีไว้ก่อน โดยทำไม่ยาก แค่ต้องเตรียม 3 สิ่งไว้เพื่อผูกบัญชี คือ
1. สมุดบัญชีเงินฝาก/เลขที่บัญชีเงินฝาก (ออมทรัพย์หรือกระแสรายวัน) ต้องเป็นชื่อเราเท่านั้น
2. บัตรประจำตัวประชาชน
3. หมายเลขโทรศัพท์มือถือ (ต้องลงทะเบียนแล้ว)
โดยให้เราเลือกว่าจะนำหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชนไปผูกกับบัญชีเงินฝากใด หรือจะนำหมายเลขโทรศัพท์มือถือของเราไปผูกกับบัญชีเงินฝากใด เมื่อเลือกแล้วสามารถกรอกข้อมูลลงทะเบียนได้ในช่องทางใดช่องทางหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็น
1. Mobile Banking
2. Internet Banking
3. ตู้เอทีเอ็ม
4. สาขาธนาคาร
5. คอลเซ็นเตอร์
6. เว็บไซต์ของธนาคาร
ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับว่าธนาคารแต่ละแห่งจะเปิดบริการในช่องทางใดบ้าง สามารถสอบถามเพิ่มเติมที่ธนาคารที่เราสนใจจะผูกบัญชีนะคะ
ตอบ : ไม่ได้ค่ะ เพราะหมายเลขโทรศัพท์ 1 เบอร์ สามารถผูกได้เพียงบัญชีธนาคารเดียวเท่านั้น หากจะผูกบัญชีอื่น สามารถใช้หมายเลขประจำตัวประชาชนแทนได้
4. ถ้าอย่างนั้นผูกบัญชีแบบไหนได้บ้าง ผูกได้กี่บัญชี กี่ธนาคาร ?
ตอบ : สำหรับคนที่สงสัยเรื่องนี้อยู่ ลองดูตามนี้นะคะ
- เลขประจำตัวประชาชนผูกได้กับเพียงบัญชีเดียวเท่านั้น
นั่นหมายความว่า หากเรามีเพียงเลขประจำตัวประชาชน กับเบอร์โทรศัพท์เพียง 1 หมายเลข ก็จะสามารถผูกบัญชีได้เพียง 1-2 บัญชีเท่านั้น
ตัวอย่างการผูกบัญชีจากธนาคารต่าง ๆ
5. มีบัญชีเงินฝากหลายบัญชี หลายธนาคาร แต่มีหมายเลขโทรศัพท์มือถือเบอร์เดียว จะเลือกผูกบัญชีไหน ธนาคารไหนดีล่ะ ?
ตอบ : จะตัดสินใจเลือกผูกบัญชีเงินฝากของธนาคารใด กับหมายเลขโทรศัพท์มือถือหรือเลขประจำตัวประชาชนใด ขึ้นกับความสะดวกของเราค่ะ อาจพิจารณาดูว่าเราใช้บัญชีใดฝากเงินบ่อย รับโอนเงินบ่อย เช่น บัญชีเงินเดือน ก็อาจเลือกผูกกับบัญชีนั้น
6. ถ้าเราแค่โอนเงินให้คนอื่น (แต่ไม่ได้เป็นผู้รับเงิน) จำเป็นต้องสมัครบริการหรือไม่ ?
ตอบ : หากเราแค่เป็นผู้โอนเงินให้อีกฝ่าย เราไม่จำเป็นต้องสมัครพร้อมเพย์ก็ได้ค่ะ เพราะสามารถโอนเงินให้ผู้รับได้ผ่านช่องทางตามปกติ เช่น ธนาคาร เอทีเอ็ม อินเทอร์เน็ต
แต่หากเราเป็นฝ่ายรับเงินที่คนจะโอนเข้ามา เราจำเป็นต้องสมัครพร้อมเพย์ โดยลงทะเบียนผูกบัญชีกับเบอร์โทรศัพท์ของเราไว้ก่อน เพื่อให้คนอื่นโอนเงินมาให้เราผ่านทางเบอร์มือถือของเราได้นั่นเอง
7. พร้อมเพย์ คิดค่าธรรมเนียมการโอนอย่างไร ?
ตอบ : ในการโอนเงินผ่านพร้อมเพย์จะไม่คิดค่าธรรมเนียมแยกรายการเป็นแบบในเขต ข้ามเขต หรือรายการในธนาคารเดียวหรือต่างธนาคารเหมือนกับการโอนเงินในรูปแบบเดิม แต่จะอ้างอิงวงเงินในการโอนเงินแต่ละครั้ง คือ
- โอนเงินไม่เกิน 5,000 บาท ไม่คิดค่าธรรมเนียม
- โอนเงินมากกว่า 5,000-30,000 บาท ค่าธรรมเนียมรายการละไม่เกิน 2 บาท
- โอนเงินมากกว่า 30,000-100,000 บาท ค่าธรรมเนียมรายการละไม่เกิน 5 บาท
- โอนเงินมากกว่า 100,000 วงเงินสูงสุดตามแต่ละธนาคารกำหนด ค่าธรรมเนียมรายการละไม่เกิน 10 บาท
8. โอนเงินไม่เกิน 5,000 บาท ไม่เสียค่าธรรมเนียม นี่มีจำกัดจำนวนครั้งต่อเดือนไหม ?
ตอบ : บริการพร้อมเพย์ให้เราโอนเงินไม่เกิน 5,000 บาท ทั้งข้ามเขต ข้ามธนาคารได้โดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมใด ๆ และไม่จำกัดจำนวนครั้งด้วยค่ะ
9. หากใช้พร้อมเพย์โอนเงินให้เพื่อน 10,000 บาท ไปบัญชีธนาคารเดียวกัน ต้องเสียค่าธรรมเนียมหรือไม่ ?
ตอบ : แม้จะโอนเงินไปยังธนาคารเดียวกัน แต่หากโอนเงินมากกว่า 5,000 บาท จะต้องเสียค่าธรรมเนียมค่ะ เพราะบริการพร้อมเพย์ไม่ได้คิดค่าธรรมเนียมข้ามธนาคาร-ข้ามเขตเหมือนการโอนเงินทั่วไป แต่คิดตามจำนวนเงินที่ต้องการโอน ดังนั้นหากไม่ต้องการเสียค่าธรรมเนียม เราอาจจะเลือกโอนเงินในช่องทางเดิมได้
ส่วนการโอนเงินแบบพร้อมเพย์จะดีในกรณีโอนข้ามเขตหรือต่างธนาคาร เพราะประหยัดค่าธรรมเนียมกว่าการโอนในช่องทางปกติ
10. กำหนดจำนวนการโอน วงเงินสูงสุด และจำนวนเงินสูงสุดในการโอนต่อรายการ และต่อวันเท่าไร ?
ตอบ : บริการนี้ไม่ได้กำหนดจำนวนครั้งในการโอนเงินต่อวัน ดังนั้นเราจะโอนเงินวันละกี่ครั้งก็ได้ ส่วนวงเงินสูงสุดและจำนวนเงินสูงสุดในการโอนเงินต่อรายการและต่อวัน ขึ้นอยู่กับแต่ละธนาคารเป็นผู้กำหนด
11. จะโอนเงินไปยังบัญชีของธนาคารในต่างประเทศได้หรือไม่ ?
ตอบ : ไม่ได้ค่ะ เพราะพร้อมเพย์ให้บริการโอนเงินเฉพาะภายในประเทศเท่านั้น
ตอบ : ไม่จำป็น เพราะการผูกหมายเลขโทรศัพท์มือถือกับ Mobile Banking เป็นคนละระบบกับการลงทะเบียนผูกหมายเลขโทรศัพท์มือถือกับบัญชีในบริการพร้อมเพย์
13. จะเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ที่ผูกกับบัญชีธนาคารไว้แล้วได้หรือไม่ ?
ตอบ : สามารถเปลี่ยนแปลงหรือยกเลิกการผูกบัญชีได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ เปลี่ยนบัญชีธนาคารที่ต้องการผูก ก็สามารถทำได้
14. ถ้าลงทะเบียนพร้อมเพย์ไปแล้ว ต่อมามีการย้ายค่ายโทรศัพท์มือถือ โดยยังใช้หมายเลขเดิม จะต้องทำอย่างไร หรือหากเปลี่ยนเครื่องโทรศัพท์มือถือใหม่ ต้องทำอะไรไหม ?
ตอบ : เราไม่ต้องแจ้งอะไรกับธนาคารเลยค่ะ เพราะในเมื่อใช้เบอร์โทรศัพท์เดิมก็ยังคงผูกกับบัญชีธนาคารได้อยู่
15. หากเลิกใช้/ยกเลิกหมายเลขโทรศัพท์มือถือที่ลงทะเบียนไว้ หรือเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ใหม่ ต้องทำอย่างไร ?
ตอบ : กรณียกเลิกเบอร์โทรศัพท์เราต้องแจ้งธนาคารโดยเร็วเพื่อให้ยกเลิกการผูกบัญชี แต่หากเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ใหม่ แล้วเรายังต้องการใช้บริการพร้อมเพย์ เราต้องลงทะเบียนผูกเบอร์โทรศัพท์นั้นกับบัญชีเงินฝากของเราอีกครั้ง
ตอบ : เรื่องนี้ธนาคารแห่งประเทศไทยยืนยันว่า บริการพร้อมเพย์มีความปลอดภัยสูงตามมาตรฐานสากล และอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทยอย่างใกล้ชิด เช่นเดียวกับระบบการโอนเงินประเภทต่าง ๆ ที่มีให้บริการอยู่ในปัจจุบันค่ะ
ทั้งนี้ข้อมูลในบริการพร้อมเพย์ไม่ได้นำไปเก็บในบัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรเดบิต/บัตรเอทีเอ็ม ชิปการ์ด แต่ถูกเก็บไว้ในระบบกลางที่มีความปลอดภัยสูง และระบบสำรองที่มั่นคง
นอกจากนี้หากเราจะใช้บริการโอนเงินทางอินเทอร์เน็ต ก็จะต้องมี Username และพาสเวิร์ด เช่นเดียวกับการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านอินเทอร์เน็ตทั่วไป จึงจะสามารถโอนเงินไปยังผู้รับได้
กรณีโทรศัพท์มือถือหาย ผู้ที่เก็บได้จะไม่สามารถนำไปโอนเงินได้ หากไม่ทราบหมายเลขรหัสเข้าระบบ และรหัสผ่านของตัวเจ้าของบัญชี แต่ผู้ใช้ต้องรีบไปยกเลิกการลงทะเบียนผูกบัญชีพร้อมเพย์ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของตัวเอง
17. หากการโอนเงินผ่านพร้อมเพย์มีความผิดพลาด เช่น เงินตัดต้นทางแต่ไม่เข้าปลายทาง หรือโอนเงินผิด จะทำอย่างไร ?
ตอบ : เราควรเก็บรายละเอียดหรือหลักฐานการโอนเงินต่าง ๆ ไว้ และแจ้งกับธนาคารต้นทางเพื่อตรวจสอบ โดยธนาคารมีกระบวนการรองรับปัญหานี้อยู่แล้ว ซึ่งเป็นกระบวนการที่เหมือนกับการแก้ปัญหาการโอนเงินในระบบปัจจุบัน
18. หากหมายเลขโทรศัพท์มือถือของผู้รับโอนเงินโดนระงับสัญญาณ เราจะโอนเงินผ่านพร้อมเพย์ได้สำเร็จไหม ?
ตอบ : ยังสามารถทำการโอนเงินได้
19. หากหมายเลขโทรศัพท์มือถือของผู้รับโอนเงินยกเลิกบริการไปแล้ว การโอนเงินผ่านบริการพร้อมเพย์จะสำเร็จหรือไม่ ?
ตอบ : กรณีหมายเลขโทรศัพท์มือถือของผู้รับโอนเงินมีการยกเลิกบริการผ่านเครือข่ายโทรศัพท์มือถือแล้ว ข้อมูลการยกเลิกดังกล่าวจะถูกนำมายกเลิกการลงทะเบียนที่ฐานข้อมูลบริการพร้อมเพย์ของธนาคารด้วย เราจะไม่สามารถโอนเงินเข้าหมายเลขโทรศัพท์มือถือนั้นได้
20. ต้องรีบมาลงทะเบียนหรือไม่ มีกำหนดระยะเวลาสิ้นสุดหรือเปล่า ?
ตอบ : ไม่มีกำหนดระยะเวลาค่ะ เป็นการลงทะเบียนแบบสมัครใจ จะลงทะเบียนเพื่อใช้งานหรือไม่ก็ได้ และจะลงทะเบียนเมื่อใดก็ได้
ทั้งนี้หากใครสมัครพร้อมเพย์ด้วยเลขบัตรประจำตัวประชาชนไว้ จะสามารถได้รับเงินคืนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจากกรมสรรพากรเร็วขึ้นกว่าการขอคืนด้วยเช็คแบบเดิมด้วยค่ะ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
ธนาคารแห่งประเทศไทย, เฟซบุ๊ก ศคง.1213